รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome: MERS) วันที่ 27 มิถุนายน 2558

ข่าวทั่วไป Saturday June 27, 2015 17:50 —สำนักโฆษก

รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส

(Middle East Respiratory Syndrome: MERS)

ประจำวันที่ 27 มิถุนายน 2558

1. สถานการณ์ วันที่ 27 มิถุนายน 2558

1.พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศ 1 ราย

2.พบผู้สัมผัสโรค 156 คน

3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 1,338 ราย เสียชีวิต 475 ราย ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 181 ราย เสียชีวิต 31 ราย

4.ขออย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง และโปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย โทร 1422ตลอด 24 ชั่วโมง

2. สธ.พบผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูงครบทั้ง 36 คนอาการปกติ ขอความร่วมมือประชาชน สื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ป่วยโรคเมอร์สก่อนนำเสนอ ป้องกันความสับสน และตื่นตระหนก

นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมวอร์รูมฯ และให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส ว่า ผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน ที่รักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร อาการดีขึ้น รับประทานอาหารได้ ได้รับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคประจำตัว ส่วนผู้สัมผัสโรคกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำนวน 36 คน ประกอบด้วย ญาติผู้ป่วย 3 คน ผู้โดยสารร่วมเดินทาง 2 แถวหน้า-หลังจำนวน 14 คน คนขับรถแท็กซี่ 2 คน บุคลากรทางการแพทย์ 17 คน ตามได้ครบทุกคนแล้ว ทุกคนอาการปกติ อยู่ในระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคจนครบ 14 วัน

-ส่วนกรณี การจัดการแข่งขันนักกีฬามหาลัยโลก ได้มีการประสานงานใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกระทรวงสาธารณสุขให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเอง จัดทีมแพทย์ติดตามดูแลนักกีฬาตลอดการแข่งขัน ซึ่งสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาไม่ใช่พื้นที่มีการระบาดของโรค และยังไม่มีประเทศใดงดส่งนักกีฬาแต่อย่างไร นอกจากนี้ได้เตรียมระบบติดตามเฝ้าระวังนักกีฬาเมื่อกลับประเทศไทย

-ขณะนี้ มีข่าวลือเรื่องผู้ป่วยโรคเมอร์สในพื้นที่ต่างๆ ได้สร้างความสับสนตระหนกให้สังคมส่วนรวม และประเทศ ถือเป็นการทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีความผิดทางกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนแชร์ข้อมูลมูลหรือนำเสนอข่าว โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”

3.ผู้เดินทางกลับจากตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ เป็นบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การตรวจสอบโรค

ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 26 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การตรวจสอบโรค ซึ่งส่วนใหญ่คือผู้เดินทางจากประเทศที่มีรายงานการเกิดโรคเมอร์สเข้ามาทั้งหมด 107 ราย ในจำนวนนี้มาจากเกาหลีใต้ 61 ราย จากตะวันออกกลาง 46 ราย สำหรับในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การตรวจสอบโรค รวม 12 ราย จากเกาหลีใต้ 6 ราย จากตะวันออกกลาง 6 ราย ทุกรายได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

4. สรุปผลการให้บริการสายด่วน 1422 ปรึกษาประชาชนเรื่อง โรคเมอร์ส

ในรอบ 24 ชั่วโมง วันที่ 26 มิถุนายน 2558 มีผู้โทรมาสอบถามที่สายด่วน กรมควบคุมโรค รวม 98 สาย เป็นเรื่องโรคเมอร์ส 51 สาย คำถามที่ถามมากที่สุด คือ ความรู้เรื่องโรค การปฏิบัติตัว การป้องกันตัวเองไม่ให้ป่วย ที่น่าสนใจคือ สอบถามชาวเกาหลีใต้ ที่จังหวัดชลบุรี ว่าใช่ผู้ป่วยโรคเมอร์สหรือไม่

5. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

-ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิในวันที่ 26 มิถุนายน 2558 จำนวน 31,548 คน พบผู้มีไข้ 2 คน ไม่ได้เป็นผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทั้งเมอร์สและอีโบลา มีที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ติดตามอาการตามระบบการเฝ้าระวัง

-ขอความร่วมมือสายการบิน ประกาศเตือนบนเครื่องบิน เรื่องมาตรการคัดกรองที่สนามบิน/ แจกคำแนะนำ (health beware card) บนเครื่อง 37 เที่ยวบินตรงจากพื้นที่เสี่ยง / แนะนำการเข้มงวดทำความสะอาดเครื่องบิน

  • ประสานงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผู้เดินทางจากเขตติดโรคให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจวัดไข้ทุกรายก่อนอนุญาตให้เข้าเมือง
  • ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) 4 จุด / ติดตั้งแอลกอฮอล์เจลกว่า 200 จุด ทั่วสนามบินแจกหน้ากากอนามัยที่จุดประชาสัมพันธ์

6. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคเมอร์ส

ประชาชนคนไทยทั่วไปไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเมอร์ส ยกเว้นผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มีการระบาด สำหรับประชาชนทั่วไปมีข้อปฏิบัติดังนี้

หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม

ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่

ถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอหรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากมีอาการดังกล่าวภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง

4.ประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ไอ ไม่ต้องกังวล ไปพบแพทย์เพื่อรักษาหรือโทรปรึกษา สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามข่าวสารทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”

27 มิถุนายน 2558

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ