(Middle East Respiratory Syndrome: MERS)
ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2558
1. สถานการณ์ วันที่ 29 มิถุนายน 2558
1.พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศ 1 ราย
2.พบผู้สัมผัสโรค 154 คน
3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 1,356 ราย เสียชีวิต 483 รายใน26ประเทศ ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 182 ราย เสียชีวิต 32 ราย
4. ขอความร่วมมือประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ เพื่อ
ไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตาม
ข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
2. สธ.กำชับระบบเฝ้าระวังโรค ต้องเข้มแข็งและต่อเนื่อง
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมวอร์รูมฯติดตามสถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส และให้สัมภาษณ์ว่า จากการประเมินสถานการณ์โรคที่เกาหลีใต้ในวันนี้คลี่คลายขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลงมาก พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ความเสี่ยงลดลง แต่ยังคงมาตรการคำเตือนอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของประเทศไทย ติดตามกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันได้ทุกคน ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ในวันนี้มีผู้สัมผัสครบกำหนดติดตามอาการ 14 วัน จำนวน 20 คน ทุกคนได้รับการตรวจตามมาตรฐานและให้กลับบ้าน ยังคงเหลืออีก 16 คน ทุกคนอาการปกติ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ผู้สัมผัสที่รับไว้สังเกตอาการพ้นจากระบบเฝ้าระวังนั้น จะพิจารณาจาก 1.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต้องไม่พบเชื้อ 2. อาการปกติ 3.ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อในสังคม สังคมมีความปลอดภัย
ได้เน้นย้ำความเข้มแข็งระบบการเฝ้าระวังโรค การรักษา ทั้งสถานพยาบาลภาครัฐ เอกชนและคลินิก การตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่พบโรค โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทุกวัน รวมทั้งการตรวจยืนยันวินิจฉัยโรค และการสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วทุกจังหวัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
กลุ่มที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ คนไทยที่จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ใน 53 จังหวัด ที่ขึ้นทะเบียนกรมการศาสนาประมาณ 10,000 คน และผู้ที่เดินทางไปพิธีอุมเราะห์ ขณะนี้สามารถประสานรายชื่อได้แล้วประมาณ 500-800 คน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดระบบติดตามหลังเดินทางกลับเป็นเวลา 30 วัน โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ทั่วประเทศร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
3. การเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค
ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 28 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค ซึ่งส่วนใหญ่คือผู้เดินทางจากประเทศที่มีรายงานการเกิดโรคเมอร์สเข้ามาทั้งหมด 128 ราย ในจำนวนนี้มาจากเกาหลีใต้ 68 ราย จากตะวันออกกลาง 60 ราย สำหรับในวันที่ 28 มิถุนายน 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค รวม 18 ราย มาจากเกาหลีใต้ ทั้ง 4 ราย ตะวันออกกลาง 14 คน ทุกคนได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
4. สรุปผลการให้บริการสายด่วน 1422 ปรึกษาประชาชนเรื่อง โรคเมอร์ส
ในรอบ 24 ชั่วโมง วันที่ 29 มิถุนายน 2558 มีผู้โทรมาสอบถามที่สายด่วน กรมควบคุมโรค รวม 48 สาย เป็นเรื่องโรคเมอร์ส 9 สาย คำถามที่ถามมากที่สุด คือ ความรู้เรื่องโรค ระยะฟักตัวของโรค การปฏิบัติตัว การป้องกันตัวเองไม่ให้ป่วย คำถามที่น่าสนใจคือ การเลือกซื้อหน้ากากอนามัย
5. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
-ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2558 จำนวน 30,376 คน
พบผู้มีไข้ 1 คน ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศเสี่ยงโรคเมอร์สและอีโบลา
-ขอความร่วมมือสายการบิน ประกาศเตือนบนเครื่องบิน เรื่องมาตรการคัดกรองที่สนามบิน/ แจกคำแนะนำ (health beware card) บนเครื่อง 37 เที่ยวบินตรงจากพื้นที่เสี่ยง / แนะนำการเข้มงวดทำความสะอาดเครื่องบิน
- ประสานงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผู้เดินทางจากเขตติดโรคให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจวัดไข้ทุกราย ก่อนอนุญาตให้เข้าเมือง
- ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) 4 จุด / ติดตั้งแอลกอฮอล์เจลกว่า 200 จุด ทั่วสนามบินแจกหน้ากากอนามัยที่จุดประชาสัมพันธ์
6. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคเมอร์ส
ประชาชนคนไทยทั่วไปไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเมอร์ส ยกเว้นผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มี
การระบาด สำหรับประชาชนทั่วไปมีข้อปฏิบัติดังนี้
หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม
ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่
รับผิดชอบต่อสังคม เมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอ หรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากมีอาการดังกล่าวภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
4. ประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ไอ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเมอร์ส ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาตามปกติ หรือโทรปรึกษา สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือติดตามข่าวสารทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”
29 มิถุนายน 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th