วันนี้ (7 กรกฎาคม 2558) เวลา 17.00 น. ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ริมคลองผดุง กรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมเมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน” โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง คณะทูตานุทูต ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนกระทรวงฯ และประชาชาชนเข้าร่วมงานในครั้งนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวรายงานว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและส่งเสริมการใช้สินค้าเกษตรในรูปแบบที่กว้างขวางขึ้น จึงได้มีนโยบายในการจัดโครงการตลาดนัดสินค้าชุมชนข้างทำเนียบรัฐบาล ริมคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และส่งเสริมการตลาดให้กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้กระทรวง ทบวง กรม ได้นำเสนอสินค้าคุณภาพดีแก่ประชาชน โดยเริ่มมีการจัดงานครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นมา คือ “ตลาดนัดกล้วยไม้คุณภาพ” จนมาถึง “เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงาม” สำหรับเดือนกรกฎาคมจัดให้มีงานมหกรรม “เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน” ระหว่างวันที่ 7 – 26 กรกฎาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ส่งเสริมและสนับสนุนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและภูมิปัญญาชาวบ้านจากผู้ค้ารายย่อยและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินค้าและบริการจากแหล่งผลิตที่อยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ สู่ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้โดยตรง รวมถึงเสริมสร้างสุขภาพที่ดีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้แก่ผู้ร่วมงานนั้น ซึ่งกิจกรรมภายในงาน แบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 นวดไทย โซนที่ 2 คลินิกเพื่อสุขภาพ บริการแนะนำการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การตรวจสุขภาพเบื้องต้น และการตรวจวัดความรู้ด้านการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทย (IQ/EQ) และโซนที่ 3 เป็นเวทีกลาง มีการสอน/สาธิตการดูแลสุขภาพ ซึ่งไฮไลท์ที่สำคัญในงานอีกอย่างหนึ่งคือ “ต้นกฤษณา” ไม้หอมโบราณของไทย ที่แกะสลักเป็นรูปพญานาค มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและส่งเสริมการใช้สินค้นเกษตรในรูปแบบที่กว้างขวางขึ้นและจัดโครงการตลาดนัดสินค้าชุมชนข้างทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษม โดยมุ่งหวังให้สินค้าชุมชนมีโอกาสกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ ซึ่งประชาชนมีกำลังซื้อสูง ในขณะเดียวกันเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้มีแหล่งขายสินค้า และพบปะผู้บริโภคโดยตรง พร้อมทั้งสร้างเสริมรายได้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานมหกรรม “เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน” เป็นการบูรณาการงานด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ และภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานบริการในสถานบริการสุขภาพของประเทศไทย รวมถึงการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานทั้งการนวดเพื่อสุขภาพ สปาและผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพจากพืชสมุนไพรมรดกจากผืนดินไทย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้สนใจได้เข้าถึงวิถีการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐานสร้างการรับรู้ในระดับสังคมของการพึ่งพาแพทย์สมุนไพรและแพทย์ทางเลือก เพื่อก่อให้เกิดวัฒนธรรมสุขภาพ ตามแนวคิดเมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน และเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดการค้าระดับสากล ดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ สร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ทุกภาคส่วนมุ่งเน้นการแพทย์แผนไทยนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์ไทย ซึ่งจะนำพาการท่องเที่ยวสู่การส่งออกยาสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเชื่อมโยงกระบวนการและเทคโนโลยีจากการวิจัยสู่ภาคการผลิต เพื่อมุ่งผลในเชิงเศรษฐศาสตร์ การตลาด ให้เป็นช่องทางในการต่อยอดผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ดีของประเทศไทยเข้าสู่ตลาดการค้าอาเซียน หรือตลาดโลกได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสร้างรายได้และลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ชุมชนท้องถิ่นของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยมีมูลค่าการตลาดรวม 48,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตร้อยละ 15-20 ต่อปี ดังนั้น เราต้องเตรียมความพร้อมในด้านการสร้างความโดดเด่นที่ชัดเจน เพื่อสร้างศักยภาพให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตสมุนไพรที่มีคุณภาพและมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน อีกทั้ง รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการได้ทุกคน ทุกกลุ่ม ตลอดจนพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้เกิดความเชี่ยวชาญ มีความเป็นเลิศในผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพ ภายใต้ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีหลายประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเกิดความความสงบสุข ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ เพราะวันนี้สถานการณ์นั้นดีขึ้น นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน วันนี้เราต้องเดินไปพร้อมกันเพื่ออนาคตของประเทศไทยในวันข้างหน้า จะต้องไม่ลืมประเทศเพื่อนบ้านเรา และจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้รับการตอบรับจากทุกประเทศ โดยสร้างความเชื่อมโยงต่อประเทศกับประเทศ ประชาชนต่อประชาชน รัฐบาลต่อรัฐบาล เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ลดความขัดแย้งกันและสร้างความสามัคคีซึ่งกันและกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เติบโตและยั่งยืน พร้อมกันนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าตาม Road Map ตามแผนงานที่วางไว้และต้องทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมภายในงานดังกล่าว ประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 1 ระว่างวันที่ 7 – 12 กรกฎาคม 2558 จะเน้นเรื่อง “อารยธรรมแผนไทย ก้าวไกลสู่สากล” จะเป็นช่วงการจับคู่ธุรกิจ การบริการคลินิกแผนไทย สาธิตสมุนไพรสู่การใช้ประโยชน์ การล้างพิษด้วยสมุนไพร การใช้สมุนไพรเสริมพลังทางเพศ ยาอายุวัฒนะ การแจกต้นกล้าสมุนไพรฟรี การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการเปิดครัวไทยรักษาเบาหวานด้วยตัวเอง ภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้าน 4 ภาค สัปดาห์ที่ 2 เน้นเรื่อง “ชุมชนไทยห่างไกลอัลไซเมอร์” มีคลินิกให้คำปรึกษา การแนะนำ/สาธิตอาหารต้านอัลไซเมอร์ ฝังเข็ม/นวดบำบัด แนะนำการออกกำลังกาย พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มความจำและยาบำบัดอัลไซเมอร์ในราคาย่อมเยา สัปดาห์สุดท้าย เน้นเรื่อง “วิถีไทย วิถีชุมชน” เป็นสัปดาห์ความงามที่สุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีไม่ควรพลาด มีการตรวจสภาพผิว การทำสปาหน้า การฝังเข็มลดริ้วลอย/ลดพุง เมนูสุขภาพ ผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเส้นผม และสาธิตการออกกำลังกาย “ฟิต แอนด์ เฟิร์ม”
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ชมพูนุท / รายงาน
ดวงใจ/ ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th