พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ดูงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดสระบุรี

ข่าวทั่วไป Thursday July 2, 2015 15:02 —สำนักโฆษก

วันนี้ (2 ก.ค. 58) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อดูงานการบริหารจัดการขยะมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบลเมืองขีดขิน อำเภอบ้านหมอ ซึ่งมีวิธีการกำจัดขยะทั้งแบบฝังกลบในบ่อขยะและโรงงานคัดแยกขยะมูลฝอยเพื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานเชื้อเพลิง

โดยในเวลา 10.30 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้เดินทางถึงองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองขีดขิน ตำบลเมืองขีดขิน อำเภอบ้านหมอ เพื่อรับฟังบรรยายสรุป เรื่องการบริหารจัดการขยะมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนตำบล เมืองขีดขิน ซึ่งปัจจุบันได้มีการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจากชุมชนและหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้ามาในพื้นที่บ่อขยะวันละกว่า 50 ตัน โดยในพื้นที่บ่อขยะ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นพื้นที่บ่อขยะฝังกลบ จำนวนประมาณ 20 ไร่ อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลเมืองขีดขิน ส่วนที่ 2 เป็นโรงงานคัดแยกขยะมูลฝอย อยู่ในความดูแลรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี โดยมีเอกชนเข้าร่วมบริหารจัดการโรงงานแห่งนี้ ศักยภาพของโรงงานสามารถรองรับปริมาณขยะมูลฝอยได้ 20 ตันต่อวัน และเอกชนจะเป็นผู้รับซื้อขยะในส่วนที่เผาไหม้ได้ (RDF) เพื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานทดแทนต่อไป อย่างไรก็ดีในพื้นที่ยังคงประสบปัญหาการกำจัดขยะมูลฝอย ซึ่งมีปริมาณขยะมากเกินกว่าศักยภาพของการกำจัดขยะของโรงงานคัดแยะซึ่งอยู่ที่ 20 ตันต่อวัน ทำให้มีปริมาณขยะตกค้างรอการกำจัดโดยประมาณ 20 ตันต่อวัน

ครั้งที่ 109/2558

วันที่ 2 ก.ค. 58

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอย ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และในขณะนี้ได้มีการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งแนวทางการบริหารจัดการขยะจะต้องทำให้สังคมรับรู้ว่าขยะเกิดที่ไหนก็ต้องทำลายที่นั่น ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สามารถทำได้ และจะต้องมีการนำขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นมากำจัดอย่างถูกวิธี การจัดการขยะด้วยวิธีฝังกลบต้องถูกหลักสุขาภิบาล โดยใช้พลาสติกรองพื้นเพื่อไม่ให้น้ำเสียที่เกิดจากขยะไหลลงน้ำใต้ดิน รวมไปถึงเรื่องของการขนย้ายขยะไปกำจัดควรมีการกำหนดระยะห่างไม่เกิน 30 กิโลเมตร และสิ่งที่สำคัญคือจะต้องมีการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและสร้างวินัยของคนในชาติในการจัดการขยะ โดยช่วยกันลดปริมาณขยะ คัดแยกขยะอย่างจริงจัง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความยั่งยืน

ต่อจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้ลงพื้นที่ดูการบริหารจัดการขยะที่ในพื้นที่บ่อขยะ ทั้งกระบวนการคัดแยกขยะรีไซเคิลผ่านสายพาน โดยใช้กำลังคนในการคัดแยกขยะแต่ละประเภท และกระบวนการหมักขยะ และการคัดแยกขยะส่วนที่เผาไหม้ได้ (RDF) ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีในการกำจัดขยะร่วมกันระหว่างหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณขยะเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมีปริมาณขยะค้างมากกว่า 80,000 ตัน ที่ยังไม่ได้ดำเนินการกำจัดให้ถูกต้องซึ่งจะได้มีการแก้ไขปัญหาต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ