พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีมีครอบครัวฐานะยากจน ที่จังหวัดราชบุรี อาศัยอยู่ด้วยกัน ในบ้านสภาพเก่าผุพัง ประกอบด้วยแม่ อายุ ๕๘ ปี ลูกชาย อายุ ๓๕ ปี ไม่สามารถทำงานหนักได้ เพราะกระดูกไหปลาร้าหัก และมือทั้งสองข้างอ่อนแรง และมีหลาน ๒ คน อายุ ๑๑ ปี และ อายุ ๑๓ ปี อยู่ในวัยกำลังเรียน รวมทั้งลูกสะใภ้ อายุ ๔๓ ปี ป่วยเป็นโปลิโอตั้งแต่เกิดนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี(พมจ.ราชบุรี)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลคนป่วยในครอบครัวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะและเหมาะสม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีหญิงชราอายุ ๖๕ ปี ออกลีลาเชียร์ฟุตบอลสุดมันข้างสนามหน้าที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่ ที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งที่ผ่านมาคุณยายเป็นคนชอบกีฬาทุกชนิด และชอบเชียร์แบบออกท่าทางลีลาอย่างเมามันเป็นประจำนั้น ตนขอชื่นชมที่เป็นผู้สูงอายุในการรักษาสุขภาพกายและจิตใจให้แข็งแรง ซึ่งผู้สูงอายุสามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ เนื่องจากการเชียร์กีฬาด้วยการออกท่าทางต่างๆ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและผ่อนคลายอารมณ์ได้อีกอย่างหนึ่ง
"ในช่วงบ่ายวันนี้ (๙ ก.ค.๕๘) ตนพร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการแก้ไขปัญหาสังคมจังหวัดน่าน และผลักดันการบูรณาการการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน "น่าน Model”ที่บริเวณที่ทำการศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th