1) การปกป้องไม่ให้มรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ถูกจัดอันดับขึ้นสู่บัญชีมรดกโลกในภาวะอันตราย นั้น คณะกรรมการมรดกโลก รับฟังและพอใจแผนการดำเนินงาน Road Map ที่นำเสนอ และยังไม่ขึ้นบัญชีมรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นมรดกโลกในภาวะอันตราย โดยไทยต้องรายงานผลการดำเนินการตาม Road Map ดังกล่าวต่อคณะกรรมการมรดกโลกภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 จากนั้นในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 40 ที่ประเทศตุรกี ในปี 2559 จะมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง หากประเทศไทยปฏิบัติตาม Road Map ในการดูแลพื้นที่มรดกโลกอย่างเข้มข้น คณะกรรมการมรดกโลก ก็จะไม่นำวาระการขึ้นบัญชีมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นมรดกโลกในภาวะอันตรายเข้าสู่วาระการประชุมอีกต่อไป
2) กรณีการเสนอขึ้นบัญชีกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ได้ให้ประเทศไทยจัดทำบัญชีความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่เพิ่มเติม และแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ ซึ่งปัญหาชุมชนกระเหรี่ยงในพื้นที่นั้นต่างชาติมองว่าเป็นชนเผ่าดั้งเดิมเหมือนกับชาวอินเดียนแดง อะบอริจิน หรือชนเผ่าอินคา ในการนี้ ประเทศไทยได้ชี้แจง ว่า ถ้าเป็นชนเผ่าดั้งเดิมก่อนเกิดประเทศไทย ก็ต้องดูแล แต่กลุ่มนี้อพยพเข้ามา จากเดิมเข้ามา 200 - 300 คน ซึ่งขณะนี้เพิ่มเป็น 3,000 คน และยังมีการย้ายเข้าออกพื้นที่ ในโอกาสนี้ทางคณะกรรมการมรดกโลกต้องการทราบจำนวนประชากรที่ชัดเจน โดยต้องรายงานไปยังคณะกรรมการมรดกโลก ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 และจะมีการพิจารณาว่าจะขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกหรือไม่ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 40 ทันที
ที่มา: http://www.thaigov.go.th