ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและเพื่อรองรับปริมาณการเดินทาง การขนส่ง ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเรื่องกำหนดเวลาทำการจุดผ่านแดน จึงได้แจ้งให้จังหวัดชายแดนทุกจังหวัด เร่งพิจารณาทบทวนความเหมาะสมในการขยายเวลาทำการของจุดผ่านแดนทุกแห่งในจังหวัด (จุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรน) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัวด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวชายแดน โดยให้จังหวัดเสนอข้อมูลมายังกระทรวงมหาดไทย โดยคำนึงถึงปริมาณการขนส่งสินค้า และการเดินทางในห้วงเวลาที่เหมาะสม มีความคุ้มค่า และมาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจระดับจังหวัด (กรอ.จังหวัด) คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ หรือคณะกรรมการอื่นๆ ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง และการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าชายแดนของจังหวัด เพื่อให้ได้รับความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่ายในพื้นที่ พร้อมเสนอประเด็นปัญหาอุปสรรคในการขอเปิดหรือยกระดับเพื่อประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ในการเสนอขยายเวลาทำการจุดผ่านแดน กระทรวงมหาดไทยจะต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อนำเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่านแดน และแจ้งกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานประเทศเพื่อนบ้านพิจารณาข้อเสนอการขยายเวลา ซึ่งหากทุกฝ่ายให้ความเห็นชอบ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการออกประกาศกระทรวงมหาดไทยและนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวม 94 แห่ง ในพื้นที่ 27 จังหวัด โดยแบ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวร 39 แห่ง จุดผ่อนปรนการค้า 52 แห่ง จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร 1 แห่ง จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ 1 แห่ง จุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร 1 แห่ง โดยมีวันเวลาทำการของจุดผ่านแดนทั่วประเทศแตกต่างกันตามสภาพความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ การพิจารณาขยายเวลาทำการจุดผ่านแดนจึงต้องมีการพิจารณาร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากจังหวัดมีความพร้อมและมีความประสงค์เสนอขอขยายเวลา กระทรวงมหาดไทยจะเร่งเสนอเรื่องไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอันจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าบริเวณชายแดนให้มากยิ่งขึ้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th