พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง การประปาส่วนภูมิภาคสาขาธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้ชี้แจงว่า น้ำดิบในคลองระพีพัฒน์ลดลงอย่างต่อเนื่องตามลำดับตั้งแต่วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นมา ส่งผลให้ไม่สามารถผลิตน้ำประปาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้ ขณะนี้ มีการหยุดจ่ายน้ำประปา ในพื้นที่อำเภอธัญบุรี ตั้งแต่คลอง ๕ ถึงคลอง ๑๕ อำเภอลำลูกกา ทั้งอำเภอ และอำเภอหนองเสือบางส่วน ซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนกว่า ๕๐,๐๐๐ ครัวเรือน ตนได้กำชับให้หน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะสถานสงเคราะห์ที่ให้การดูแลผู้ด้อยโอกาสทุกแห่ง เฝ้าระวังในการดำเนินการตามแผนตั้งรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง โดยให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีในเรื่องการจัดหาแหล่งน้ำสำรอง การสำรองน้ำไว้ใช้ภายในหน่วยงาน การตรวจสอบและซ่อมบำรุงวัสดุอุปกรณ์ของระบบการส่งน้ำให้มีความสมบูรณ์ไม่ชำรุดจนเกิดการรั่วไหลของน้ำ การเปิด-ปิดน้ำอย่างเป็นเวลา ใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการจัดรถน้ำ ทั้งนี้ เพี่อให้หน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สามารถดำเนินงานบริการได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีสถานรับเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อย ย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯเตรียมยุติบทบาทเพื่อสังคมในเดือนกรกฎาคมนี้ เนื่องจากต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมียอดบริจาคเข้ามาสนับสนุนแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กที่อยู่ในความดูแลจำนวนทั้งสิ้น ๖๕ คนนั้น ตนมีความห่วงใยกับกรณีดังกล่าว และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเตรียมแผนช่วยเหลือเด็กที่จะได้รับผลกระทบ จากกรณีนี้ ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ส่วนกรณีเด็กชายอายุ ๘ ปี ชั้น ป.๒ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ป่วยเป็นโรคลมชัก และชักบ่อยมากจนสมองได้รับการกระทบกระเทือน ล้มหัวฟาดพื้นบ่อยครั้ง พ่อกับแม่จึงต้องใส่เฮดการ์ดนักมวยให้ทุกครั้งที่เดินทางมาโรงเรียนที่จังหวัดสระบุรี หลังจากเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี กรุงเทพฯ ล่าสุดเด็กอาการดีขึ้นไม่มีอาการชัก และได้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ทั้งนี้ ทราบจากรายงานว่า ปัจจุบันเด็กไปโรงเรียนและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่มีอาการของโรคลมชักแต่อย่างใด ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (พมจ.สระบุรี)ติดตามดูแลและให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อย่างต่อเนื่อง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติม สำหรับกรณีแม่ที่ต้องพาลูก ๓ คน อายุ ๕ ขวบ ๗ ขวบ และ ๑๐ ขวบ เดินเท้าจากบ้านไป-กลับโรงเรียนเป็นระยะทางกว่า ๑๔ กิโลเมตร และแม่ต้องอยู่คอยรับกลับบ้านเป็นประจำทุกวัน ครอบครัวฐานะยากจน อาศัยในบ้านสภาพเก่า ทรุดโทรม มีลักษณะเอียงแทบพัง ที่อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช (พมจ.นครศรีธรรมราช) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกรณี สองตา-ยาย ขอความช่วยเหลือ "น้องแชมป์" หลานที่พิการทางสมอง ร่างกายทรงตัวไม่ได้ ต้องเจาะสายยางสำหรับให้อาหาร-น้ำ ที่ผ่านมา ต้องขายที่ดินเพื่อนำเงินมารักษาพยาบาลหลาน ที่อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย (พมจ.สุโขทัย) เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยเฉพาะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการรักษาพยาบาลเด็กอย่างต่อเนื่อง
"นอกจากนี้ ตนขอชื่นชมกรณีหญิงสาวพิการอายุ ๓๕ ปี มือขาดทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุ ไม่ย่อท้อต่อชีวิต ฝึกฝนเรียนวาดรูปจนชำนาญ สามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ เคยขายรูปได้สูงสุดถึง ๑ หมื่นบาท ซึ่งขณะนี้ทำงานอยู่ที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน จังหวัดปทุมธานี ที่ได้มีความพยายามประกอบอาชีพสุจริตเพื่อหาเลี้ยงชีพ ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้พิการที่สู้ชีวิต” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th