พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว(สค.)เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี และการส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว รวมทั้งดูแลคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากการประชุมกับเครือข่ายหญิงไทยในยุโรปตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ จนถึงปี ๒๕๕๘ ในหลายประเทศ พบว่า หญิงไทยในต่างประเทศบางส่วนประสบปัญหาทั้งปัญหาครอบครัว และปัญหาการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพจิต กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จึงร่วมกับกรมสุขภาพจิตจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ เพื่อเสริมสร้างทักษะการให้คำปรึกษาแก่อาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศ และเสริมสร้างทักษะการให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ระหว่างเครือข่ายอาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศ และเป็นการช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือหญิงไทยในต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ www.yingthai.net เช่น กรมการกงสุล กรมสุขภาพจิต เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่ควรรู้ สาระน่ารู้จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สิทธิและกฎหมายควรรู้ การดูแลสุขภาพ พร้อมทั้ง การแจ้งเหตุ และขอรับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้ความสำคัญกับคนไทยในทุกพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายให้ทุกส่วนราชการเร่งดำเนินโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็นรูปธรรม เว็บไซต์ www.yingthai.net จึงเป็นของขวัญที่กระทรวงฯมอบให้แก่ประชาชน เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อหญิงไทยและครอบครัวในต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังผลักดันให้เกิดข้อกำหนดคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นขอและการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ (ฉบับที่ ๒)พ.ศ.๒๕๕๘ เพื่อให้เครือข่ายในต่างประเทศสามารถจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ และรับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม การดำเนินงานดังกล่าว จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานด้านสวัสดิการสังคมสำหรับคนไทยโดยมุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนไทยทุกกลุ่มได้รับสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของเว็บไซต์ดังกล่าวพัฒนาและมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อหญิงไทยในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จึงได้จัด "การฝึกอบรมเพื่อเสริมทักษะการให้คำปรึกษาแก่อาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศ”ครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อเสริมสร้างทักษะการให้คำปรึกษาแก่อาสาสมัครคนไทยและระดมความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ระหว่างเครือข่ายอาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศ โดยการจัดอบรมครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การอภิปรายในหัวข้อการจัดการปัญหาการหย่าร้างการเลี้ยงลูกวัยรุ่น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่เคยเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือในต่างประเทศจากผู้ปฏิบัติงานจริง และการเสวนาเรื่อง "ก้าวต่อไปหญิงไทยดอทเน็ท”เพื่อทบทวนการดำเนินงานที่ผ่านมา และนำมาปรับปรุงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ฯลฯ
"การจัดอบรมครั้งนี้ ถือเป็นการให้ความคุ้มครองคนไทย ผ่านเครือข่ายคนไทยที่มีจิตอาสาที่ดี เพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ทำได้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเครือข่ายคนไทยเป็นกลไกสำคัญในการดูแลช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดำรงชีวิตอย่างมีความสุข ตนขอให้ผู้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ นำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการให้คำปรึกษาแก่คนไทยในต่างประเทศ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน รวมทั้งเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไทยในต่างประเทศต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th