ที่ประชุมรับทราบประกาศการใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. ๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๑ มี.ค. ๒๕๕๘ และได้มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ จำนวน ๓ ราย ได้แก่ นายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์,นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง และนายอิทธิพร แก้วทิพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ขณะที่ รศ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งให้ผู้อำนวยการภารกิจกองทุนและสวัสดิการทางการศึกษา สังกัดสำนักงาน ก.ค.ศ.ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารเงินทุนหมุนเวียน อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย โดยการดำเนินงานกองทุนหมุนเวียนฯ นั้น มีวัตถุประสงค์ให้ข้าราชการครูกู้ยืมรายละไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อนำไปชำระหนี้ที่มีอยู่เดิม ซึ่งผลการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนฯ ประจำปี ๒๕๕๘ ได้จัดเป็นวงเงินให้ข้าราชการครูกู้ยืมจำนวน ๕๐๐ ล้านบาท และได้อนุมัติเงินกู้ยืมไปแล้วจำนวน ๓๒๓,๕๗๖,๕๑๔ บาท
นอกเหนือจากการจัดสรรเงินทุนหมุนเวียนฯ ให้ข้าราชการครูกู้ยืมแล้ว ที่ประชุมยังเสนอให้มีการพัฒนาบุคลากรโดยเน้นข้าราชการครูบรรจุใหม่ เนื่องจากครูสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและหลากหลาย จึงควรสร้างจิตสำนึกการมีวินัยทางการเงิน ให้ความรู้ด้านการเงิน การทำบัญชีครัวเรือน อย่างจริงจังเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ยั่งยืน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “หลักการของกองทุนเงินทุนหมุนเวียนคือ ก.ค.ศ.จะจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ หรือสถาบันการเงินที่ครูเป็นลูกหนี้โดยตรง เพื่อลดภาระหนี้สินให้กับครู ซึ่งครูต้องมีหลักฐานการกู้ยืมที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่ผ่านมามีการจ่ายหนี้จริง โดยเรื่องนี้จะต้องรอบคอบรัดกุม ไม่เช่นนั้นจะเป็นการส่งเสริมให้ครูมีหนี้เพิ่มขึ้นอีก”
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบประมาณการรายจ่ายของเงินทุนหมุนเวียนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๙,การตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการแทนคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู และการจัดสรรเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ (ครั้งที่ ๒) รวมทั้งสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ ข้อตกลงต่างๆให้สอดคล้องกับปัจจุบันเพื่อปรับแก้แผนในปี ๒๕๕๙ ต่อไป
ปารัชญ์ / ข่าว
ศุภชัย / ภาพ
กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th