วันนี้ (14 กรกฎาคม 2558) ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการการะทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติภัยแล้งว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้สถานบริการในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ตั้งในพื้นที่ประสบภัยแล้งรวม 9 จังหวัด 36 อำเภอ ได้แก่ น่าน นครราชสีมา สระแก้ว แพร่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ชลบุรี และปทุมธานี ให้สำรองน้ำใช้ ในการให้บริการดูแลผู้เจ็บป่วยอย่างเพียงพอ และให้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาจะร่วง เป็นต้น และให้ดูแลควบคุมคุณภาพมาตรฐานความสะอาดน้ำดื่มน้ำใช้ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้น
ทาง ด้านดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการควบคุมมาตรฐานของน้ำดื่ม น้ำใช้ โดยกรณีที่เป็นน้ำประปา จะต้องมีระดับคลอรีนตกค้างไม่ต่ำกว่า 0.2 พีพีเอ็ม ซึ่งคลอรีนจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำ อาจจะมีกลิ่นบ้างแต่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สำหรับกรณีที่เป็นน้ำใช้ ประชาชนอาจนำน้ำจากแหล่งอื่นๆมาใช้ทดแทน และมีปัญหาน้ำขุ่น สามารถปรับสภาพน้ำก่อนใช้โดยใช้สารส้มแกว่งนานประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำตกตะกอน จากนั้นจึงใส่คลอรีนเม็ดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปริมาณ 1 เม็ดต่อน้ำ 20 ลิตร จากนั้นสามารถนำน้ำมาใช้ในครัวเรือนได้ และหากจะใช้ดื่ม สามารถนำมาต้มให้เดือดก่อน ความร้อนจะฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำทุกชนิด ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยประชาชนสามารถซื้อคลอรีนและสารส้มได้ที่ร้านขายยาทั่วไป
14 กรกฎาคม 2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th