ในการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังได้ติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล คือ ปัญหาภัยแล้งและปัญหาหนี้สินเกษตรกร โดยในส่วนของการแก้ไขปัญหาภัยแล้งขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนมีน้อยและลดลงจากปัญหาฝนทิ้งช่วง ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอและประคับประคองพืชผลทางการเกษตรไม่ให้เสียหาย ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ได้มีมติให้หยุดส่งน้ำด้านการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ เป็นต้น เพื่อประคับประคองไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ดูแลและชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรให้เป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด ในส่วนของน้ำอุปโภคบริโภคซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลหมู่บ้านที่มีน้ำประปาใช้ทั้งหมดทั่วประเทศ จำนวน 70,319 หมู่บ้าน โดยเป็นระบบประปาหมู่บ้านประมาณ 6 หมื่นกว่าหมู่บ้าน ส่วนที่เหลือประมาณอีก 16 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในความดูแลของการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งขณะนี้การประปาส่วนภูมิภาคได้พยายามอย่างเต็มที่ในการหาแหล่งน้ำดิบเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตน้ำประปา จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแลในส่วนของประปาหมู่บ้านให้สามารถใช้การได้และมีน้ำเพียงพอในการผลิตประปาหมู่บ้าน โดยให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและประสานงานร่วมกับทุกหน่วยงานในการช่วยเหลือประชาชน หากเกินกำลังของจังหวัดขอให้รีบรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบโดยเร็วเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป รวมไปถึงการเตรียมสถานที่ แหล่งเก็บกักน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น
การแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและมีความห่วงใยอย่างยิ่งที่จะดูแลช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่มีภาระหนี้สินทั้งหนี้นอกระบบและในระบบ โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนที่เกษตรกรอาจสูญเสียกรรมสิทธิ์ของที่ดินไป จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ โดยมี อชก.จังหวัด อชก.อำเภอ เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหา ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ โดยมีการแบ่งประเภทของภาระหนี้สิน และแนวทางการช่วยเหลือตามฐานข้อมูลที่กรมการปกครองได้ดำเนินการสำรวจไปก่อนหน้านี้
และสุดท้ายการติดตามการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามสาระสำคัญของกฎหมาย ที่จะต้องมีการจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นให้แล้วเสร็จและเผยแพร่ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม นี้ ทั้งนี้ ขอให้เน้นเพิ่มเติมในเรื่องของการปฏิบัติงาน ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อการให้บริการประชาชนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมซึ่งจะต้องให้บริการในทุกมิติ ขอให้เตรียมฐานข้อมูลต่างๆ ไว้ให้พร้อม เพื่อให้บริการด้านการแนะนำข้อมูล ข่าวสาร ตอบปัญหา และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เน้นการบริการอย่าง Service Mind จึงขอให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ไว้ให้ครอบคลุมทุกๆ ด้าน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th