ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีหน่วยงานในสังกัด 14 หน่วยงาน สามารถเป็นที่ปรึกษาได้ อาทิ ถ้าสนใจด้านอวกาศ ก็มีสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ที่มีสถานีควบคุมดาวเทียมไทยโชต (Thaichote) อยู่ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ถ้าสนใจเรื่องดวงดาว สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ก็มีหอดูดาวขนาดใหญ่ อยู่ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ถ้าสนใจ เรียนรู้การทดสอบระดับโมเลกุล สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน จ.นครราชสีมา ก็มีเทคโนโลยีระดับอนุภาค ทดสอบระดับโมเลกุล ฯลฯ
ดร.พิเชฐ กล่าวอีกว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีทุนให้กับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ทุกปี ทั้งในระดับปริญาโทและปริญญาเอก ส่วนใหญ่จะเป็นทุนศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการ หรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐที่กระทรวงฯ กำหนด นอกจากนี้ยังมีทุนของหน่วยงานอื่นที่เป็นทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้แก่ พสวท. และทุน กพ. ซึ่งส่วนใหญ่กลับมาแล้วจะมาทำงานในมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ให้บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาครัฐ ไปปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมหรือภาคเอกชนได้ ภายใต้โครงการ Talent Mobility จะทำให้ภาคเอกชนมีนักวิจัยไปร่วมทำงานวิจัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังพยายามผลักดันให้ภาคเอกชนมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยเพื่อรองรับนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และพัฒนานวัตกรรมขึ้นเองภายในประเทศให้มากขึ้นด้วย
ประสานงานได้ที่ : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
อีเมลล์ : pr@most.go.th
ที่มา: http://www.thaigov.go.th