ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า ก้าวสู่สังคมนวัตกรรมโดยใช้การวิจัยและพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อให้ลูกหลานคนไทยรุ่นถัดไปมีอนาคตที่ดีขึ้น ภาคเอกชนจะต้องเป็นกำลังหลักในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการในหลายมาตรการ เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การสนับสนุนนักวิจัยจากภาครัฐให้สามารถไปทำงานได้ในภาคเอกชน การสร้างตลาดภาครัฐสำหรับนวัตกรรมของคนไทยที่บรรจุอยู่ในบัญชีนวัตกรรม และการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่มีมาตรฐานและปลอดภัยโดยภาครัฐจะดูแลทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปจนถึงการทำการตลาด ตามนโยบายของรัฐบาลที่ยกให้ การสนับสนุนธุรกิจ SME เป็นวาระแห่งชาติ เพราะผู้ประกอบการ SME มีมากกว่า 90% ของผู้ประกอบการทั้งประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กลุ่มอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัยตามหัวเมืองต้องช่วยกันขยายผล ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะสนับสนุนการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SMEs ไทยไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยเช่นกัน
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ได้นำผู้เชี่ยวชาญของ วว. มาช่วยพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ โดยนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปถ่ายทอด ทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนา การค้นหาแหล่งเงินทุน การทำการตลาด การบริการอุตสาหกรรม และการวางแผนระบบ Logistic เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจ SMEs และ OTOP ในการพัฒนาความแตกต่างภายใต้ Green Technology บนองค์ความรู้ที่ชำนาญตามแผน Green Growth ของรัฐบาล ซึ่งในปีนี้ วว. ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมไปถึงสถาบันการเงินกว่า 11 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โซนที่ 1 การนำเสนอผลงานวิจัย และจุดรับลงทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์ใช้ผลงานวิจัย/การบริการของ วว. หรือหน่วยงานภายใต้กระทรวงวิทย์ ภายใต้ STM: (Science Technology and Innovation Matching Program) กับผลงานนวัตกรรมสร้างสรรค์ธุรกิจและสังคมในอนาคต ทางด้านเกษตร อาหาร พลังงาน ชุมชน และบริการ โซนที่ 2 O•Z•O•N•E Product by TISTR & Friends ผลงานวิจัยวิทยาศาสตร์แนวสร้างสรรค์ และบูธ Business matching การบริการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ สิทธิพิเศษต่างๆ จากหน่วยงานพันธมิตร สิทธิพิเศษด้านการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการเงิน สินเชื่อและการลงทุน เป็นต้น และในโซนที่ 3 ช้อป ชม ชิม พบกับบูธนิทรรศการของหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาผู้ประกอบการไทย, ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ เช่น น้ำพริกปลาร้าก้อน น้ำพริกสัปปะรด ลิปติกและสคับข้าว รังนก ผ้าบาติก ถุงมือยาง กาแฟสด น้ำข้าวกล้องงอกรวมถึงผลงานวิจัยของ วว. ที่พร้อมถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์ เวชสำอางนาโน VITISTRA เพื่อผิวกระจ่างใสไร้ริ้วรอย จากสารสกัดเมล็ดองุ่น ผลิตภัณฑ์ MDmate เภสัชโภชนภัณฑ์ในการบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ เป็นต้น
การจัดงาน TISTR and Friends 2015 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคมนี้ ณ โซนบี ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เวลา 10.00-20.00 น. สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการตลาด หรือ วว. call centre โทร. 02-577-9300 หรือ www.tistr.or.th
ประสานงานได้ที่ : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3727 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
อีเมลล์ : pr@most.go.th
ที่มา: http://www.thaigov.go.th