นรม. เยี่ยมชมโรงเรียนกำเนิดวิทย์และสถาบันวิทยสิริเมธีของกลุ่ม ปตท.

ข่าวทั่วไป Monday July 20, 2015 16:06 —สำนักโฆษก

นรม. ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมของกลุ่ม ปตท. ในการรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดสถาบันการศึกษาดังกล่าวในวันที่ 6 สิงหาคมศกนี้

วันนี้ (20 ก.ค. 58) เวลา 13.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร. ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากตลาดตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ไปยังโรงเรียนกำเนิดวิทย์และสถาบันวิทยสิริเมธีของกลุ่ม ปตท.

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่ม ปตท. ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผู้ปกครอง นักเรียน และคณาจารย์ของสถาบันการศึกษาฯ ให้การต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ชมวีดิทัศน์ เรื่อง “โอกาส” ซึ่งเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนในการเข้าศึกษาต่อสถาบันการศึกษาฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ปตท. ได้กล่าวรายงานว่า การมาเยี่ยมชมสถาบันการศึกษาทั้งสองแห่งดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างคน สร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับสากล

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. โดยมูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง และมูลนิธิสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยองได้ริเริ่มจัดตั้งสถาบันการศึกษาทั้งสองแห่ง เมื่อปี พ.ศ. 2556 บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ ในอุทยานการศึกษาและการวิจัยของกลุ่ม ปตท. หรือ PTT Group Research and Education Park ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวังจันทร์วัลเล่ย์ บนพื้นที่ทั้งหมด 4,000 ไร่ โดยมีเป้าหมายที่จะให้เป็นสถาบันการศึกษา ระดับนานาชาติชั้นนำของโลกต่อไป

ประการสำคัญโรงเรียนกำเนิดวิทย์และสถาบันวิทยสิริเมธี กำหนดเปิดภาคการศึกษาแรกในปีมหามงคลนี้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานเปิดสถาบันการศึกษาทั้งสองแห่งดังกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 ซึ่งนับเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่กลุ่ม ปตท. สถาบันการศึกษาฯ และชาวจังหวัดระยองเป็นอย่างยิ่ง

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นแหล่งกำเนิดของนวัตกรรมทางปัญญา จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนทั้งในการดำรงชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน ล้วนเป็นผลของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ นอกจากนั้น เทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กว้างขวางขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไม่เพียงแต่นำมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ยังช่วยให้คนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ การดูแลรักษา ตลอดจนการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน และที่สำคัญยิ่งคือ ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจ สามารถแข่งขันกับนานาประเทศ และดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมโลกได้อย่างมีความสุข รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญและมีนโยบายพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับ ทั้งในด้านการสร้างบุคลากรให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ โดยเร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม ส่งเสริมระบบการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ การผลิตกำลังคนในสาขาที่ขาดแคลน การเชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้กับการทำงาน และการส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อเสริมสร้างฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศให้เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม อันจะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวไปสู่เศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกได้อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปตท. ภายใต้สังกัดกระทรวงพลังงานถือเป็นองค์กรสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ โดยการจัดให้มีเชื้อเพลิงพอใช้ในราคาที่เป็นธรรม โดยใช้โครงการที่ระยองเป็นฐานที่มั่นหลัก และการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานทดแทน รวมถึงการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน สร้างความตระหนักในการอนุรักษ์พลังงานเพื่อให้ประชาชนมีพลังงานใช้อย่างพอเพียง ทั้งในวันนี้ และในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกบทบาทหนึ่งของ ปตท. ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคม หรือ CSR ที่รับผิดชอบต่อสังคมในการให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาโดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีอย่างยิ่งที่ ปตท. ซึ่งเป็นองค์กร ที่มีศักยภาพมีความพร้อม ได้เข้ามามีบทบาท จุดประกาย และตั้งเป้าหมายที่ท้าทายในเรื่องของการสร้างนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์จึงเป็นการสร้างประโยชน์ สร้างคุณค่าต่อสังคม และประเทศชาติอย่างมาก และที่สำคัญการที่ได้มาดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดระยองซึ่งมี GDP ต่อหัวในระดับสูงเท่ากับ โตเกียว และนิวยอร์ก ก็จะช่วยสร้างงานและเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนา และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศมีขีดความสามารถ ในการแข่งขันกับนานาประเทศ

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเน้นในตอนท้ายว่า ประเทศไทยต้องมีความพร้อมตามวิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันประเทศในระดับสากล และขอให้ทุกกลุ่มทุกฝ่ายยึด "หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ในการดำรงชีวิต และพัฒนากิจการหน้าที่ของตนเอง

ประการสำคัญ คนไทยทุกคนต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้สถาบันการศึกษาถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ซึ่ง 2 สถาบันการศึกษาดังกล่าวจะได้นำไปเป็นต้นแบบแก่สถาบันการศึกษาภาครัฐฯ ในการพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ดีขึ้นต่อไป

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำอีกว่า ตนไม่ท้อพร้อมมีกำลังใจเต็มร้อยที่จะมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติให้มีอนาคตที่ดีต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมในกันทำงาน เพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และยั่งยืนยิ่งขึ้นตลอดไป

ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรีได้ชมห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา ฟิสิกส์ และห้องสัมมนาการด้านดนตรีไทย ดนตรีสากล พร้อมให้เกียรติลงนามในสมุดเยี่ยมสถาบันการศึกษาฯ และถ่ายภาพร่วมกับคณะนักเรียนและนักศึกษาของทั้ง 2 สถาบันด้วย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ดวงใจ /รายงาน

ดวงฤดี /ตรวจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ