วันนี้ (22 กรกฎาคม 2558) เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พระศรีสมโพธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้แทนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายเอนก รัตน์ปิยะภาภรณ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) แถลงข่าวการจัดกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและองค์กรที่ดำเนินการดีเด่นด้านป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 39 รางวัล อาทิ พระสุนทรมุนี เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองลำพูน ชมรมคนหัวใจหิน จังหวัดลพบุรี และ กลุ่มเยาวชนศรีสำเภาลูน จังหวัดสุรินทร์
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้แถลงข่าวสรุปความว่า คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2551 โดย ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม 2558 จึงขอเชิญชวนประชาชนงดดื่มสุรา ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันงดดื่มสุราแห่งชาติปีนี้ว่า “พัฒนาเยาวชนและทรัพยากรมนุษย์ ต้องหยุดเป็นทาสสุรา” เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักและร่วมมือกันปกป้องอนาคตของชาติ ไม่ให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเสพติด โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดหาซื้อง่าย
ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2557 พบว่าเยาวชนไทยอายุ 19-24 ปี ที่มีประมาณ 6 ล้านคน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 หรือทุก 1 ใน 4 คน ชายดื่มมากกว่าหญิง 4 เท่า ดื่มมากสุดคือเบียร์ รองลงมาคือสุราสี และสุรากลั่นชุมชน ในกลุ่มผู้ดื่มสุรา พบว่าร้อยละ 54 เป็นผู้ดื่มหนักจนเมาเป็นประจำเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ดื่มที่บ้าน หอพัก และร้านค้ารอบสถานศึกษา รายงานภาวะสังคมไทยของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในภาพรวมปี 2557 พบว่าประชาชนมีค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 41.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากปี 2556 ที่มีจำนวน 40.55 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าหมายควบคุมจำนวนเยาวชนไม่ให้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เร็วเกินไป โดยผลักดันการออกกฎหมายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัศมี 300 เมตรรอบสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ลดการเข้าถึงแอลกอฮอล์ในกลุ่มนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 มีผลบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน กระทรวงสาธารณสุขเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศ ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดดื่มสุรา ทำความดีถวายในหลวง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง วัดทุกแห่ง หรือลงนาม Online ทาง www.thaiantialcohol.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
อนึ่ง ผลสำรวจของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ปี 2557 พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 90 เห็นด้วยกับการรณรงค์ให้งดดื่มสุราในเทศกาลเข้าพรรษา มีผู้ดื่มสุราที่งดดื่มครบ 3 เดือนร้อยละ 39 สูงกว่าปี 2556 ที่มีร้อยละ 31 อีกร้อยละ 17 ดื่มไม่แตกต่างจากช่วงก่อนเข้าพรรษา เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มที่ดื่มไม่บ่อย ส่วนใหญ่งดดื่มได้ครบ 3 เดือน กลุ่มที่ดื่มบ่อยส่วนใหญ่ไม่ลดทั้งปริมาณและความถี่ สาเหตุที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างงดดื่มสุราได้ตลอดเทศกาล ร้อยละ 20 ระบุว่ามาจากการรณรงค์ กลุ่มที่ไม่สามารถงดได้ครบ 3 เดือนระบุสาเหตุว่าไปงานเลี้ยง ขัดคำชวนของเพื่อนไม่ได้ ชอบเที่ยวสังสรรค์ สำหรับผลที่ได้จากการงดดื่มสุรา ส่วนใหญ่ตอบว่า สุขภาพร่างกายดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่าย โดยประหยัดเฉลี่ย 1,455 บาทต่อคน
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ดวงใจ/รายงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th