รมว.พม.ห่วงใยประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้ง ลงพื้นที่ตรวจสอบประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการน้ำของหน่วยงาน พม. ที่จังหวัดปทุมธานี

ข่าวทั่วไป Thursday July 16, 2015 10:41 —สำนักโฆษก

วันนี้ (๑๖ ก.ค. ๕๘) เวลา ๑๔.๐๐ น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการน้ำของหน่วยงาน พม.ในสถานการณ์ภัยแล้ง เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ ณ สระเก็บน้ำพระราม ๙ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดปทุมธานี ส่งผลกระทบให้น้ำดิบในคลอง ระพีพัฒน์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นมา ทำให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาธัญบุรี ไม่สามารถผลิตน้ำประปาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้ มีการหยุดจ่ายน้ำประปาในพื้นที่อำเภอธัญบุรี ตั้งแต่คลอง ๕ ถึงคลอง ๑๕ อำเภอลำลูกกาและอำเภอหนองเสือบางส่วน ทำให้ประชาชนไม่มีน้ำอุปโภคและบริโภคเป็นจำนวน กว่า ๕๐,๐๐๐ ครัวเรือน ตนมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว จึงได้กำชับให้หน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะสถานสงเคราะห์ที่ให้การดูแลผู้ด้อยโอกาสทุกแห่ง เฝ้าระวัง ในการดำเนินการตามแผนตั้งรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เตรียมความพร้อมตั้งรับผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาภัยแล้งล่วงหน้าแล้ว โดยได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ทั้ง ๑๒ แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี คือ ๑)สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ๑ ๒)สถานสงเคราะห์คนไข้โรคจิตทุเลาหญิงบ้านกึ่งวิถี ๓)บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ๔)สถาบันพระประชาบดี ๕)ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี ๖)สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต ๗)สถานสงเคราะห์คนไข้โรคจิตทุเลาบ้านกึ่งวิถีชาย ๘)สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิบ้านมหาราช ๙)สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญพร ๑๐)ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดปทุมธานี ๑๑)สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี และ ๑๒)สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหญิงธัญบุรี โดยมีมาตรการป้องกันบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ดำเนินการ ดังนี้ ๑)แผนระยะสั้น ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมจัดหาภาชนะเพิ่มเติมสำหรับกักเก็บน้ำ แจกจ่ายทุกอาคาร เพื่อใช้อุปโภคและบริโภค ในช่วงวิกฤต โดยให้ทุกอาคารสำรองน้ำไว้ กำหนดเวลา ปิด-เปิดน้ำ และซ่อมแซมก๊อกน้ำ อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ๒)แผนระยะยาว กำหนดมาตรการประหยัดน้ำ ให้ใช้น้ำเท่าที่จำเป็น นำน้ำจากแหล่งอื่น เช่น จากบึงมาใช้ในการล้างห้องน้ำ ซักผ้า เป็นต้น หาแหล่งน้ำเสริม จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ สำรวจแหล่งน้ำภายในสถานสงเคราะห์ ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอรับการสนับสนุนน้ำสะอาด ในกรณีน้ำสำรองขาดแคลนหรือไม่เพียงพอ

"ตนหวังว่าระบบบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่จังหวัดปทุมธานี ทั้ง ๑๒ แห่ง ที่ได้เตรียมการมานาน ก่อนเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำใช้ครั้งนี้ จะทำให้ผู้รับบริการในสถานสงเคราะห์ต่างๆ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข สำหรับประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและใกล้เคียงก็ขอให้ช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทรกันในสถานการณ์วิกฤตภัยแล้งนี้”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ