พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารงานด้านแรงงาน สาธารณสุข และความมั่นคง ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ณ สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ชั้น 4 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน สาธารณสุข และความมั่นคง ได้มาตรวจดูความก้าวหน้าตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในด้านการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้มีความเจริญตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยแจ้งว่านายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในเรื่องการพัฒนา ว่าเมื่อพัฒนาพื้นที่แล้วทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์ เศรษฐกิจของชุมชนได้รับการพัฒนาและเจริญมากยิ่งขึ้น คนในพื้นที่ต้องไม่เสียโอกาส ซึ่งจังหวัดตากได้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาช่วยดำเนินการอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ได้เร่งรัดในส่วนของข้าราชการกระทรวงแรงงานด้วยให้ดำเนินการได้อย่างเท่าทันและสอดคล้องกับพื้นที่ ต้องพัฒนาการทำงานไปสู่แบบที่พิเศษจริงๆ ส่วนแรงงานในพื้นที่ได้ช่วยลดหย่อนให้แรงงานต่างด้าวได้เข้ามาทำงานแบบเช้ามา-เย็นกลับ และตามฤดูกาล โดยขณะนี้รัฐบาลได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานในพื้นที่โดยในด้านสาธารณสุข ต้องดูแลคนไทยให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและแรงงานต่างด้าวต้องมีมาตรการควบคุมโรคของแรงงานต่างด้าว และดูแลการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน ในด้านความมั่นคง ทางตม. ได้ปรับระบบให้รองรับการผ่านทางเข้า-ออกของแรงงานต่างด้าวเพื่อบริหารจัดการทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อมิให้แรงงานต่างด้าวเดินทางออกนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้โดยทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองมีมาตรการรองรับควบคุมอยู่ มีการแก้ไขปัญหาอุปสรรคและปรับปรุงพัฒนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรองรับนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่มากขึ้น และแรงงานต่างด้าวก็จะต้องขยายจำนวนมากขึ้นเช่นกัน
แนวทางต่อไปคือจะทำอย่างไรให้คนไทยมีทักษะมีฝีมือ สูงขึ้น คนไทยต้องก้าวขึ้นเป็นระดับหัวหน้างาน ได้รับค่าตอบแทนที่สูง และให้ดำรงชีพในพื้นที่ได้อย่างมีความสุข ซึ่งพอใจผลการดำเนินการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยขับเคลื่อนการดำเนินการอย่างเข้มแข็งและวางกรอบการทำงานอย่างชัดเจน
ด้าน นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก ว่าจังหวัดได้ดำเนินการในเรื่องที่ดินที่ตั้งเขตฯ การบริหารจัดการด้านแรงงาน การดูแลสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ลงทุนและการจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการสร้างถนนเส้นทางคมนาคมและสะพานเชื่อมต่อระหว่างประเทศ รองรับการเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับตำบลขึ้น โดยสมาชิกเป็นระดับผู้นำของชุมชนไม่น้อยกว่า 15 คน เพื่อให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้คนในพื้นที่ดูแลกันเอง มีการจัดตั้งชุมชนในลักษณะ Social Business ซึ่งเป็นแนวทางการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในทุกภาคส่วนและทำให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดเพื่อจำหน่ายสินค้า แต่การพัฒนาต้องไม่ละเลยการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นต้องคงอยู่ได้ รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยอนาคตได้เสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานไทย-เมียนมาขึ้น ซึ่งจะเป็นการรองรับความต้องการแรงงานที่มีฝีมือของภาคอุตสาหกรรมได้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th