ทำเนียบรัฐบาล--7 ต.ค.--บิสนิวส์
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2540 นี้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งได้รับพระบรมราขโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2539 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ตามมาตรา 216 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป ผลจากการนี้คือ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะเป็นอันพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 215 (1) แต่โดยยังมิได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีคณะใหม่ รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งยังคงต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
การลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ เป็นความประสงค์ของนายกรัฐมนตรีว่า ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหา ผู้คนแตกแยกทางความคิด และประเทศชาติเผชิญกับวิกฤตการณ์นานาที่โถมทับเข้ามาดังเช่นในขณะนี้ ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้วควรที่จะคืนอำนาจกลับไปสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ประชาขนมีโอกาสตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เมื่อมิอาจดำเนินการได้เนื่องจากติดขัดที่เงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ จึงต้องใช้วิธีคืนอำนาจกลับไปสู่สภาผู้แทนราษฎรอันเป็นสภาของผู้แทนปวงชนชาวไทย ให้มีโอกาสตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหาแทน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถปฎิบัติหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันนี้ ภารกิจอันสำคัญยิ่งของรัฐบาลได้ลุล่วงแล้วในระดับหนึ่ง คือการเสนอพระราชกำหนดอันเป็นรากฐานในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอความเห็นชอบ และการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญสามฉบับต่อสภาผู้แทนราษฎรนับแต่นี้ไปก็เป็นที่หวังได้ว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาการเมืองจะเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง หากประชาชนมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือด้วยแล้ว ปัญหาต่างๆย่อมจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
รัฐบาลขอขอบคุณประชาชนทุกหมู่เหล่าและข้าราชการทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่งที่ได้ให้ความร่วมมือในการบริหารราชการแผ่นดินในเวลาที่ผ่านมาด้วยดี และโปรดให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ในการแก้ปัญหาของชาติและนำประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าต่อไป
สำนักนายกรัฐมนตรี
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2540
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2540 นี้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งได้รับพระบรมราขโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2539 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ตามมาตรา 216 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2540 เป็นต้นไป ผลจากการนี้คือ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะเป็นอันพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 215 (1) แต่โดยยังมิได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีคณะใหม่ รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งยังคงต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
การลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ เป็นความประสงค์ของนายกรัฐมนตรีว่า ในยามที่บ้านเมืองมีปัญหา ผู้คนแตกแยกทางความคิด และประเทศชาติเผชิญกับวิกฤตการณ์นานาที่โถมทับเข้ามาดังเช่นในขณะนี้ ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้วควรที่จะคืนอำนาจกลับไปสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ประชาขนมีโอกาสตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เมื่อมิอาจดำเนินการได้เนื่องจากติดขัดที่เงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ จึงต้องใช้วิธีคืนอำนาจกลับไปสู่สภาผู้แทนราษฎรอันเป็นสภาของผู้แทนปวงชนชาวไทย ให้มีโอกาสตัดสินใจและมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหาแทน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถปฎิบัติหน้าที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันนี้ ภารกิจอันสำคัญยิ่งของรัฐบาลได้ลุล่วงแล้วในระดับหนึ่ง คือการเสนอพระราชกำหนดอันเป็นรากฐานในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอความเห็นชอบ และการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญสามฉบับต่อสภาผู้แทนราษฎรนับแต่นี้ไปก็เป็นที่หวังได้ว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาการเมืองจะเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง หากประชาชนมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือด้วยแล้ว ปัญหาต่างๆย่อมจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
รัฐบาลขอขอบคุณประชาชนทุกหมู่เหล่าและข้าราชการทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่งที่ได้ให้ความร่วมมือในการบริหารราชการแผ่นดินในเวลาที่ผ่านมาด้วยดี และโปรดให้ความร่วมมือแก่รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ในการแก้ปัญหาของชาติและนำประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าต่อไป
สำนักนายกรัฐมนตรี
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2540