กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของกระทรวงตามข้อสั่งการของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เตรียมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยนำร่างแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 3) ของประเทศไทย เป็นวัตถุดิบสำคัญในการจัดทำรายละเอียดแผนยุทธศาสตร์ฯ และปรับแก้ไขกรอบนโยบาย ICT 2020 ให้สอดคล้องกับนโยบาย Digital Economy ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อจัดทำนโยบายและแผนระดับชาติด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยระบุกรอบระยะเวลาแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ที่จะดำเนินการทบทวนภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนแผน/นโยบายระดับชาติของประเทศไทยและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องศึกษาสถานภาพ ประเด็นปัญหา ตามกรอบนโยบายเศรษฐกิจและสังคมทั้ง 5 ด้าน รวมถึงการระดมความคิดเห็น (Focus Group) เป็นการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายรวมกันใน 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มสังคมและประชาชน 2. กลุ่มวิชาการ 3. กลุ่มภาครัฐ 4. กลุ่มภาคเอกชน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรอบยุทธศาสตร์ 5 ด้าน และยุทธศาสตร์ย่อย เพื่อเตรียมจัดทำร่างกรอบนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไปตามลำดับ โดยแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดังกล่าวจะเป็นแผนที่สำคัญของประเทศที่จะทำให้เกิดการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดดำเนินการแผนฯ ให้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้รายงานความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย Digital Economy ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยได้มีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำแนกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. กลุ่มกฎหมายส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ กฎหมายปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กฎหมายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ซึ่งได้รวมกฎหมาย 3 ฉบับไว้ในฉบับเดียวกัน คือ กฎหมายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กฎหมายการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และกฎหมายกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) อยู่ระหว่างการเสนอต่อ สนช.
2. กลุ่มกฎหมายที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้มีการแยกพระราชบัญญัติเป็น 2 ฉบับ คือ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ กฎหมายจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา สำหรับกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
3. กลุ่มกฎหมายด้านความมั่นคง ได้แก่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th