นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลยึดตามโรดแมปที่วางไว้ ระบุพร้อมลุกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเมื่อถึงเวลา

ข่าวทั่วไป Wednesday August 5, 2015 12:04 —สำนักโฆษก

ม่มีอำนาจวาสนาตรงนั้นอยู่แล้ว ทุกคนก็ต้องยอมรับทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีต่อไปแล้วกัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติและขั้นตอนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่าใช่ แล้วใครจะไปทำอะไร อย่าคิดว่าตนจะไปบังคับ ถ้าจะให้ตนบังคับจริงๆ คงไม่ต้องมี สปช.หรือสนช.เกิดขึ้นมา ตนเป็น คสช.อย่างเดียวนี่แหละ บริหารด้วยอำนาจเต็มไม่ดีกว่าหรือ นี่คือสิ่งที่แตกต่าง การทำงานของตนในครั้งนี้จะดีหรือไม่อย่างไร แต่ส่วนตัวคิดว่ามันต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ตนพยายามเอาอำนาจที่ตนมีอยู่ให้คนอื่นไปใช้ แล้วพยายามใช้อำนาจพิเศษเพื่อให้ทุกคนมาใช้กฎหมายปกติในการทำงานให้ได้ไม่ใช่มาขัดแย้งด้วยกฎหมาย ดังนั้นการปฏิรูปที่กำลังทำในขณะนี้คือการแก้ไขปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้น ซึ่งยากกว่าการเริ่มใหม่ แต่การแก้ไขในสิ่งที่ล้มเหลว หรือปรับปรุงในสิ่งที่เกือบจะล้มไปแล้วนั้นมันยาก แต่ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างไปตามกระบวนการจะทำให้การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีต้องลุกออกไปเร็วขึ้น สามารถยอมรับได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แล้วทำไมจะรับไม่ได้ อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ตนเป็นคนนำขึ้นทูลเกล้าเอง ตนจะไปฝืนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ใครจะมาทำให้ตนก็ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่คนไทยทุกคน สปช.เองก็ต้องเคารพในกติกา อย่าลืมว่าวันนี้ สปช.ทั้ง 250 คน พูดเหมือนกันหรือไม่ ก็มีบางคนที่พูดด้วยความหวังดี บางทีก็ไม่มีเจตนา ดังนั้นถ้าไปเอาทุกอย่างมาเป็นเรื่องเป็นราวทั้งหมดก็จะเละเช่นนี้ เอาตรงนี้ไปตีกับนักการเมือง เอานักการเมืองไปตีกับกปปส. เราต้องแยกแยะการทำงานในส่วนของใครเป็นของใคร

“ผมคิดว่าทุกคนมีความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองทั้งนั้น แต่ติดที่คำว่าการเมือง วันนี้เราเล่นการเมืองมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าประเทศไทยมีความเท่าเทียม ไม่มีความเหลื่อมล้ำ ไม่มีความยากจนที่แตกต่างกันมากขนาดนี้ เล่นการเมืองอย่างไรก็ไปได้ เพราะคนมีความเท่าเทียมและคิดเป็น มีการศึกษา มีเงินทองพออยู่พอกิน ไม่ว่าการเมืองจะเล่นอย่างไร เมื่อประชาชนเข้มแข็งก็ไม่มีปัญหา แต่วันนี้ประชาชนยังมีความเข้มแข็งไม่เพียงพอ ที่ผ่านการเมืองใช้วิธีการ แบ่งแยกและปกครอง (ดีไวด์ แอนด์ รูล) แบ่งคนเป็นพวกๆ ตามคะแนนเสียง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของระบบประชาธิปไตย มีคนแบ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนพรรคการเมืองต่างกัน ถ้าสู้กันด้วยการเมืองโดยไม่มีความรุนแรงก็ธรรมดา แต่ถ้าสู้ทางการเมืองแล้วมีอาวุธเข้ามาเมื่อไหร่ และเกิดการบาดเจ็บล้มตาย ก็เป็นการเมืองที่ใช้ไม่ได้ มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ประชาชนอย่าไปร่วมมือกับการกระทำแบบนี้ หรือแม้แต่การรับใช้ก็อย่าไปทำเลย ขอร้องว่าอย่าให้มันเกิดอะไรขึ้นมาอีกเลย ผมเองก็อยากให้การปฏิรูปมันสำเร็จ ซึ่งขอให้เข้าใจว่าผมไม่ได้ผูกขาดในการปฏิรูป แต่จะให้เสร็จในรัฐบาลนี้ก็คงยาก การปฏิรูปที่ผมทำคือทำในระยะที่ 1จากนั้น รัฐบาลหน้าก็นำผลไปทำซึ่ง สปช.วางแนวทางไว้ 11 ด้าน ว่าจะทำอะไรกันบ้าง สิ่งไหนที่ผมทำแล้วก็ไม่ต้องไปทำ แต่สิ่งไหนที่ทำยังไม่เสร็จ หรือต้องทำใหม่ในระยะที่ 2 ก็ต้องไปทำกัน และทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าผมเข้ามาแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย เหนื่อยกันทุกวัน แก้ไขปัญหาทั้งในอดีต การเดินหน้าปัจจุบัน และวางแผนทำเพื่ออนาคตอีก แต่ทุกอย่างจะใจร้อนไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าหากนายกรัฐมนตรีจะลุกออกจากตำแหน่งแล้ว จะไปแบบไม่สนิทใจเพราะงานหลายอย่างยังไม่สำเร็จลุล่วง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ไม่ใช่เรื่องของตนแล้ว เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนรวมถึงสื่อมวลชนที่ต้องไปช่วยกันทำให้ทุกอย่างมันสงบ ไม่ใช่ให้ตนมานั่งรักษาความสงบตลอดต่อไป

“ถ้าผมไม่อยู่แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันจะต้องฆ่ากันเพราะผมไม่อยู่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะผมก็ต้องไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาส่วนใหญ่แต่ละพรรคการเมืองจะมีการเขียนนโยบายที่มีความแตกต่างกันเสนอให้กับประชาชนอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า ก็ใช่ และขณะนี้ผู้ที่มีหน้าที่ก็กำลังเขียนรัฐธรรมนูญอยู่ เท่าที่ทราบระบุว่า การกำหนดนโยบายพรรคต่างๆ จะต้องมีการชี้แจงล่วงหน้ารวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณต้องมีการแถลงว่าจะนำมาจากไหน แต่ฝ่ายการเมืองเองก็ไม่น่าจะรับ เพราะเหมือนกับไปบังคับเขา ซึ่งอยากถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ควรต้องทำแบบนี้หรือไม่ ก็ต้องไปตัดสินกันเอง ตนบอกแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เหมือนกับฉบับอื่นๆ หากถามว่าตนเห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้เช่นนี้ ตนก็ตอบยากเพราะตนไม่ใช่นักการเมือง จึงไม่รู้ อย่างวันนี้ที่เข้ามามีเงินงบประมาณเท่าไหร่ ตนก็ทำเท่านั้น สิ่งใดที่จำเป็นก็ทำก่อน และไม่ต้องคิดว่า จะเอาเงินไปไหน เพียงแต่คิดว่าทำอย่างไรจะให้เงินเหล่านั้นเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แต่หากเป็นนักการเมืองจะคิดเช่นนี้หรือเปล่า ตนก็ไม่ทราบ ขอร้องว่าวันนี้อย่าเอาตนไปขัดแย้งกับใครเลย

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ