ทำเนียบรัฐบาล--11 มิ.ย.--บิสนิวส์
วันนี้ (3 มิ.ย. 41) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู้ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางศุภวรรณ ปั้นทอง ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับประเทศ ได้นำคณะกรรมการฯ จำนวน 35 คน เข้าเยี่ยมคารวะ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำคณะกรรมการชุดใหม่ และขอให้รัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จะได้พัฒนาอาชีพด้านแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ให้ก้าวหน้าและมีรายได้สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้เพิ่มมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับคณะกรรมการชุดใหม่ทุกคน พร้อมกล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สามารถรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่บ้านเมืองวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รุนแรงได้ ทั้งนี้เพราะภาคเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าภาคอุตสาหกรรม ที่นับวันจะได้รับผลกระทบมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาคนว่างงาน และการขาดแคลนเงินที่จะนำมาลงทุน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าภาคเกษตรของประเทศไทย มีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้พี่น้องเกษตรกรพอที่จะรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยมีข้อเด่นได้เปรียบ จึงไม่ประสบปัญหารุนแรง เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ที่ขณะนี้ขาดแคลนข้าวสารไม่มีกิน ประเทศไทยต้องส่งข้าวไปช่วยเหลือ 5 พันตัน เรายังโชคดีที่มีข้าวกิน แต่เราเสียเปรียบตรงที่ต้องกู้เงินจากต่างประเทศ จนมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลก็กำลังหาทางใช้หนี้อยู่ในเวลานี้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรัฐบาล พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มแม่บ้านเกษตร ส่วนงบประมาณนั้นถึงแม้จะมีอยู่ค่อนข้างจำกัด แต่เชื่อว่าไม่กระทบภาคเกษตรมากนัก ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน ประสบความสำเร็จในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และเป็นหลักให้กับชุมชุนเกษตรในแต่ละจังหวัดต่อไป--จบ--
วันนี้ (3 มิ.ย. 41) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู้ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางศุภวรรณ ปั้นทอง ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรระดับประเทศ ได้นำคณะกรรมการฯ จำนวน 35 คน เข้าเยี่ยมคารวะ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำคณะกรรมการชุดใหม่ และขอให้รัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จะได้พัฒนาอาชีพด้านแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ให้ก้าวหน้าและมีรายได้สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้เพิ่มมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับคณะกรรมการชุดใหม่ทุกคน พร้อมกล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สามารถรองรับปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่บ้านเมืองวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รุนแรงได้ ทั้งนี้เพราะภาคเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าภาคอุตสาหกรรม ที่นับวันจะได้รับผลกระทบมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาคนว่างงาน และการขาดแคลนเงินที่จะนำมาลงทุน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าภาคเกษตรของประเทศไทย มีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้พี่น้องเกษตรกรพอที่จะรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยมีข้อเด่นได้เปรียบ จึงไม่ประสบปัญหารุนแรง เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ที่ขณะนี้ขาดแคลนข้าวสารไม่มีกิน ประเทศไทยต้องส่งข้าวไปช่วยเหลือ 5 พันตัน เรายังโชคดีที่มีข้าวกิน แต่เราเสียเปรียบตรงที่ต้องกู้เงินจากต่างประเทศ จนมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลก็กำลังหาทางใช้หนี้อยู่ในเวลานี้
อย่างไรก็ตามในส่วนของรัฐบาล พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มแม่บ้านเกษตร ส่วนงบประมาณนั้นถึงแม้จะมีอยู่ค่อนข้างจำกัด แต่เชื่อว่าไม่กระทบภาคเกษตรมากนัก ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน ประสบความสำเร็จในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และเป็นหลักให้กับชุมชุนเกษตรในแต่ละจังหวัดต่อไป--จบ--