ทำเนียบรัฐบาล--5 ม.ค.--บิสนิวส์
วันนี้ (18 ธ.ค. 40) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบเงินบริจาคจำนวน 1 ล้าน จากนายสาคร กยาวัฒนกิจ อุปนายก สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทนจากชมรม 9 สมาคมจีน ซึ่งประกอบด้วยสมาคมฮากกาแห่งประเทศไทย สมาคมว๋องสิว สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย สมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย สมาคมเจียงเจียะแห่งประเทศไทย สมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย สมาคมหยูนหนานแห่งประเทศไทย และสมาคมครองศรี ที่ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมอบผ่านนายกรัฐมนตรี
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุนตัวแทนสมาคมทั้ง 9 แห่ง ที่มีกุศลจิตมอบเงินบริจาคจำนวน 1 ล้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้บรรเทาความเดือดร้อน โดยจะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยทุกคนที่ต่างได้รับผลกระทบในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลเข้าใจดีถึงความรู้สึกและความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลกระทบต่อบ้านเมืองจึงต้องใช้เวลาในการแก้ไขมากพอสมควร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีถึงสถานการณ์จำเป็นดังกล่าว พร้อมให้โอกาสรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือทุกคนจะต้องร่วมมือกันใช้จ่ายอย่างประหยัด เพื่อเศรษฐกิจของประเทศจะได้ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น--จบ--
วันนี้ (18 ธ.ค. 40) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบเงินบริจาคจำนวน 1 ล้าน จากนายสาคร กยาวัฒนกิจ อุปนายก สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้แทนจากชมรม 9 สมาคมจีน ซึ่งประกอบด้วยสมาคมฮากกาแห่งประเทศไทย สมาคมว๋องสิว สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย สมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย สมาคมเจียงเจียะแห่งประเทศไทย สมาคมไต้หวันแห่งประเทศไทย สมาคมหยูนหนานแห่งประเทศไทย และสมาคมครองศรี ที่ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมอบผ่านนายกรัฐมนตรี
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุนตัวแทนสมาคมทั้ง 9 แห่ง ที่มีกุศลจิตมอบเงินบริจาคจำนวน 1 ล้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้บรรเทาความเดือดร้อน โดยจะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยทุกคนที่ต่างได้รับผลกระทบในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลเข้าใจดีถึงความรู้สึกและความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลกระทบต่อบ้านเมืองจึงต้องใช้เวลาในการแก้ไขมากพอสมควร ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจดีถึงสถานการณ์จำเป็นดังกล่าว พร้อมให้โอกาสรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือทุกคนจะต้องร่วมมือกันใช้จ่ายอย่างประหยัด เพื่อเศรษฐกิจของประเทศจะได้ฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น--จบ--