โรงเรียนวไลย เป็นโรงเรียนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) พระราชทานเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อก่อตั้งโรงเรียนเมื่อปี พ.ศ.2509 โดยเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้น ป.1 - 4 มีตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวรหัวหินเป็นครูสอน ต่อมาโอนมาเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอหัวหิน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ในปี พ.ศ. 2545
ปัจจุบันโรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และมีนักเรียนจำนวน 171 คน เป็นโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษารุ่น 2 (เพิ่มเติม) ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ รวมทั้งการส่งครูในโรงเรียนเข้ารับการอบรมและศึกษาดูงาน โดยเน้นการเรียนการสอนที่ปลูกฝังให้มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีความเป็นไทย ส่งเสริมกระบวนการคิดเพื่อการเรียนรู้ตามความต้องการและพัฒนาการตามวัย โดยบูรณาการผ่านการเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสม
ในการนี้ รมช.ศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและจิตอาสาสู่ชุมชนของโรงเรียนตามแนวทาง "คุณธรรมทุกพื้นที่ ความดีทั้งโรงเรียน" รวมทั้งตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) หรือครูตู้ และชมการสาธิตการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการพัฒนาทางสมอง (Brain-based Learning : BBL) เพื่อการอ่านออกเขียนได้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยแนวคิด BBL คือ กระบวนการในการดำเนินการตามกุญแจ 5 ดอก ซึ่งใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมอง เป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของนักเรียน คือ
กุญแจดอกที่ 1 สนามเด็กเล่น
กุญแจดอกที่ 2 ห้องเรียนเปลี่ยนสมอง
กุญแจดอกที่ 3 พลิกกระบวนการเรียนรู้แบบ BBL
กุญแจดอกที่ 4 หนังสือเรียนและใบงาน BBL
กุญแจดอกที่ 5 สื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ BBL
นอกจากนี้ รมช.ศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมการแสดงดนตรีไทยประยุกต์ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย และแนวทางจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ซึ่งเน้นให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา โดยได้ส่งเสริมกระบวนการคิดให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ให้ครอบคลุมตามความต้องการ และพัฒนาการตามวัยของเด็ก มีการพัฒนาอย่างบูรณาการเป็นองค์รวม ผ่านการเล่นและกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย เช่น การส่งเสริมให้เด็กเล่นกีฬา การเล่นดนตรีไทยประยุกต์
อีกทั้งโรงเรียนได้ดำเนินโครงการคุณธรรมต่างๆ อาทิ ผู้พิทักษ์ภูมิทัศน์น้อย ห้องน้ำสะอาดด้วยมือเรา เด็กน่ารักรู้จักแต่งกายถูกระเบียบ วัยใสไหว้สวย ฯลฯ เพื่อให้จัดกิจกรรมต่างๆ เป็นประสบการณ์สำคัญในการเรียนรู้ และพัฒนาบุคลิกภาพพื้นฐานของนักเรียนให้แข็งแกร่ง ด้วยค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม วินัยและความรับผิดชอบ ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป
โอกาสนี้ พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่ได้เห็นถึงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่เป็นรูปธรรม มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับท้องถิ่น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนในทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อันจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและเกิดการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาในภาพรวม ซึ่งจะเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศต่อไปฃ
จึงขอชื่นชมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ทุ่มเท เสียสละ และรับผิดชอบในหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ หวังว่าจะธำรงไว้ซึ่งความดีเหล่านี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : ศูนย์สารนิเทศการศึกษาขั้นพื้นฐาน สอ.สพฐ.
กลุ่มประชาสัมพันธ์ : สรุป/รายงาน
27/7/2558
ที่มา: http://www.thaigov.go.th