นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ประสบเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ซึ่งได้มีการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้บาดเจ็บหรือผู้ที่เสียชีวิตทั้งคนไทยชาวต่างประเทศ โดยกรณีชาวต่างประเทศที่เสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงและมีส่วนต่างจากผู้ที่เสียชีวิตที่เป็นประชาชนคนไทยมากกว่านั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นและมีความสำคัญ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ประชาชนทั้งคนไทยหรือชาวต่างประเทศมีการใช้ชีวิตกันโดยปกติและเมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยก็อยากมีความสุข แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลทั้ง 2 กลุ่มให้ได้รับการช่วยเหลือและสนใจจากรัฐบาลในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้พบว่าแหล่งเงินที่จะช่วยเหลือดูแลประชาชนทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว มี 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 จากกระทรวงยุติธรรม ไม่ว่าจะจากกฎหมายหรือจากกองทุน ส่วนที่ 2 จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนที่ 3 จากสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนที่ 4 จากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งแต่เดิมการให้ความช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวในส่วนของชาวต่างประเทศจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในสัดส่วนที่สูงกว่าคนไทย นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปพิจารณาในรายละเอียดว่าทำอย่างไรประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศจะได้รับการดูแลจากรัฐบาลในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชนกลุ่มดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการต้องคำนึงถึงเรื่องจำนวนเงินที่จะต้องมีจำนวนมากพอที่จะทำให้ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือดูแลไม่รู้สึกว่าเป็นเงินที่เล็กน้อยเกินไปต่อสิ่งที่เขาสูญเสีย รวมทั้งเมื่อเป็นจำนวนเงินที่มากขึ้นจะต้องพิจารณาว่ามีข้อกฎหมายรองรับได้อย่างไร โดยจะต้องไม่ขัดกับข้อกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ทุกสิ่งที่จะช่วยเหลือเยียวยาจะต้องถูกต้องตามข้อกฎหมาย ขณะเดียวกันการดูแลต้องไม่ดูแลเฉพาะผู้ที่เสียชีวิตเท่านั้น แต่ต้องให้ครอบคลุมทั้งผู้ที่บาดเจ็บ และพิการทุพพลภาพ ซึ่งจะต้องดูแลช่วยเหลือต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายเกิดความพึงพอใจว่ารัฐบาลได้ดูแลแก้ไขปัญหาและช่วยเหลืออย่างเต็มขีดความสามารถในฐานะที่เป็นพลเมืองไทยและเป็นพลเมืองของต่างประเทศที่มาช่วยทำให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ดี
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th