รองโฆษกรัฐบาลยืนยันการดำเนินงานของ คตร. ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการลงทุน แต่ช่วยให้การลงทุนและการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ข่าวทั่วไป Tuesday September 1, 2015 11:45 —สำนักโฆษก

วันนี้ (1ก.ย. 58) เวลา 14.45 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เร่งรัดดำเนินการทุกอย่างให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายที่สั่งการไปก็ขอให้มีการเร่งการดำเนินการโดยเร็ว พร้อมแจ้งที่ประชุมฯ ว่า ในระหว่างวันที่ 23- 30 กันยายน 2558 นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากนั้น ได้มีการหารือถึงข้อห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอย่างยังเป็นไปตาม road map ที่กำหนดไว้ ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและกังวลว่าจะเป็นรัฐซ้อนรัฐหรือจะให้มีการเอื้อประโยชน์ต่าง ๆ นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่เป็นเช่นนั้น เพราะข้อกำหนดหรือกติกาที่กำหนดไว้ในลักษณะการทำงานของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ มีอยู่ชัดเจนว่า อำนาจพิเศษของคณะกรรมการดังกล่าวจะใช้ได้เฉพาะในยามวิกฤตเท่านั้น เช่นเดียวกับลักษณะของมาตรา 44 จะใช้แก้ปัญหาในกรณีที่กลไกลปกติ หรือกฎหมายปกติ รวมถึงพระราชกำหนดหรือพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก ใช้ไม่ได้ โดยที่ผ่านมาเราก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ซึ่งอำนาจพิเศษของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ฯ ก็จะเป็นการใช้ในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งการจะใช้อำนาจดังกล่าวจะต้องมีการปรึกษากับประธานศาลรัฐธรรมนูญและประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งตรงนี้มีข้อกำหนดในการใช้อำนาจที่ชัดเจนและมีกติกาทอย่างรัดกุม เพราะฉะนั้นจึงขอใหสังคมมั่นใจและสบายใจว่าอำนาจพิเศษตรงนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ชุดนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้ โดยคณะกรรมการฯ มีระยะเวลา 5 ปี เท่านั้น และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการสืบทอดอำนาจต่าง ๆ แต่อย่างใด

ส่วนกรณีข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่อบทบาทของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุนที่กำหนดภายใต้งบประมาณ 50 ล้านบาท นั้น ขอชี้แจงทำความเข้าใจว่า บทบาทของ คตร. ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของการเข้าไปตรวจสอบ แต่เป็นการเร่งรัดและติดตามการทำงาน โดยเมื่อมีโครงการลงทุนภายใต้งบฯ 50 ล้านบาท โครงการนั้นไม่จำเป็นต้องมานำเสนอเพื่อให้ได้รับความเห็นชอบจาก คตร. แต่สามารถดำเนินการได้ทันที และมีหน้าที่รายงานความก้าวหน้าของโครงการว่าดำเนินการอย่างไร มีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม คตร. จะมีบทบาทมีก็ต่อเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าโครงการดังกล่าวมีลักษณะของความไม่น่าไว้ว่างใจ ซึ่ง คตร. ก็จะได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงให้กับ คตร.ได้รับทราบ และมีการเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันการดำเนินงานของ คตร. ไม่ได้เป็นการเข้าไปแทรกแซงหรือเป็นการสร้างอุปสรรคในการลงทุนแต่อย่างใด แต่ตรงกันข้ามกลับเป็นการช่วยให้การลงทุนหรือการใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างเรียบร้อย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พร้อมทั้ง นายกรฐมนตรี ได้เน้นย้ำต่อที่ประชุมฯ ในเรื่องการดูแลแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหมอกควัน เพราะประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากหมอกควันภายในประเทศและที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องขอความร่วมมือในการดูแลเรื่องดังกล่าว ขณะที่ประเทศไทยก็ต้องดูแลรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเราเองด้วย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในเรื่องสถานการณ์น้ำถึงแม้ปัจจุบันจะมีฝนตกลงมาแล้วในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแต่น้ำที่ไหลเข้าอ่างยังลดจากช่วงสัปดาห์ก่อนถึง 43% รวมทั้งขณะนี้ปริมาณน้ำที่สะสมก็ยังมีระดับต่ำกว่าปกติ จึงขอให้ทุกคนยังต้องตระหนักและระมัดระวังในเรื่องของปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ตัวเลขปริมาณน้ำล่าสุดในเขื่อนหลักหลายเขื่อน ปรากฏว่าเขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำใช้ได้เพียง 41 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 2% ขณะที่เขื่อนคลองสียัด มีน้ำใช้ได้ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นน้ำใช้ได้ 4% เขื่อนบางพระ มีน้ำใช้ได้ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ได้เพียง 2% ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้ทุกฝ่ายยังต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้น้ำ และมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีประสิทธิภาพ

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ