วันนี้ (3 กันยายน 2558) เวลา 10.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) จัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมงานประมาณ 300 คน
ในโอกาสนี้ นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อสร้างต้นแบบธุรกิจที่มีศักยภาพให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับจังหวัด โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีศักยภาพจากแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ (Start up) กลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการตลาด (Rising Star) และกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว (Turn Around)
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่ม จะเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพ ซึ่งจะจัดให้มีการอบรม การวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึก และการพัฒนาปรับปรุงกิจการตามที่ได้วินิจฉัยไว้ ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้ SMEs ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการได้เป็นต้นแบบในการพัฒนาศักยภาพของ SMEs ให้มีการขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยมีหน่วยงานทั้ง 4 ร่วมบูรณาการดำเนินงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์รับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการในแต่ละจังหวัด หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่อบรมการพัฒนาธุรกิจในกลุ่ม Start up และกลุ่ม Rising Star โดยมีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทำหน้าที่อบรมการพัฒนาธุรกิจในกลุ่ม Turn Around พร้อมวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึกทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าว เพื่อดำเนินการกิจกรรมในการพัฒนาผู้ประกอบการตามที่ได้วินิจฉัยไว้ ขณะเดียวกัน สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์จะทำหน้าที่ดำเนินกิจกรรมด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการฯ สรุปความว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าเพื่อให้ภาคการผลิตและบริการของ SMEs มีความเข้มแข็งและมีขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้โดยเริ่มจากระดับชุมชนท้องถิ่น และระดับประเทศ เพื่อให้ SMEs เป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศอย่างมั่นคงต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกันบูรณาการความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs สามารถพัฒนาจากผู้ประกอบการขนาดเล็กสู่ผู้ประกอบการขนาดกลางให้สามารถเติบโตเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่และเข้าสู่ Global Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ขอให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกคน ซึ่งมาจากภูมิภาคทั่วประเทศและได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ขอให้มีความภูมิใจที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพของแต่ละจังหวัด และถือเป็นกลุ่มแรกที่จะเป็นผู้นำในการร่วมสร้างความเปลี่ยนให้ SMEs ทั่วประเทศด้วยการเป็นต้นแบบและแบบอย่างของการพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลยินดีสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ SMEs อย่างเต็มที่เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไกลพร้อมขยายตัวของเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศสู่กลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม และขยายสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป
หลังจากนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการแถลงข่าวดังกล่าวเสร็จแล้ว คณะผู้บริหาร สสว. ได้เชิญนายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด และทักทายผู้ประกอบการ SMEs ที่มาร่วมงานด้วยอัธยาศัยอันดี
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์
ดวงใจ กล่อมจิตต์/รายงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th