วันนี้ (17 กันยายน 2588) พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนถึง ความสำเร็จของไทยในการดำเนินการพัฒนา บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) เมื่อครั้งการประชุม Millennium Summit ปี 2543 ที่ได้กำหนดวาระการพัฒนาของโลก ประกอบด้วยเป้าหมายหลัก 8 ข้อ ได้แก่ (1) ขจัดความยากจนและความหิวโหย (2) ให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา (3) ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและบทบาทสตรี (4) ลดอัตราการตายของเด็ก (5) พัฒนาสุขภาพของสตรีมีครรภ์ (6) ต่อสู้กับโรคเอดส์ มาลาเรีย และโรคสำคัญอื่น ๆ (7) รักษาและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (8) ส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก
ความก้าวหน้าและความสำเร็จในการดำเนินงานของไทย เป็นผลจากการดำเนินงานอย่างจริงจังของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประเทศไทยได้บรรลุเป้าหมาย MDGs ด้านความยากจน ความหิวโหย ความไม่เท่าเทียมทางเพศ โรคเอดส์และมาลาเรียแล้ว จึงได้ริเริ่มแนวคิด “MDG-Plus” ทั้งการให้เด็กทุกคนสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ การต่อสู้โรคเอดส์ ลดสัดส่วนประชากรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและสุขาที่ถูกสุขลักษณะ การยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรในชุมชนแออัด รวมทั้งการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาในประชาคมโลก อย่างไรก็ตาม ไทยยังได้เร่งดำเนินการ การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในเรื่องการรักษาและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (life-cycle policy) โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนบนฐานความรู้ ความพอเพียงและความยั่งยืน การสร้างคุณค่าสังคมที่เอื้ออาทรและเท่าเทียมกันทางโอกาส และเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก โรคระบาด โดยเฉพาะโรคติดต่ออุบัติใหม่ ภัยธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวว่าไทยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา และประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และแบบไตรภาคี เน้นประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในแอฟริกา โดยเน้นสาขาที่สนับสนุน การขจัดความยากจน การส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และการบรรลุเป้าหมาย MDGs ได้แก่ การพัฒนาภาคการเกษตร การส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ความสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) จนยกระดับความสำเร็จถึงขั้น MDG + คือ การเดินตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานไว้กว่า 40 ปีที่ผ่านมาโดยอยู่บนพื้นฐานความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิกันที่ดี รัฐบาลตั้งใจพัฒนาเพื่อสร้างความสมดุลทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางพัฒนาของโลกตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา คือ การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals: MDGs) ระหว่างปี 2543-2558 และรัฐบาลไทยจะยังคงเดินหน้าสร้างความยั่งยืน ตามนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ คือ “มั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน” สอดคล้องกับเป้าหมายหลักการพัฒนาของสหประชาชาติหลังปี ค.ศ. 2015 ที่ให้ความสำคัญต่อ การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs) และเป็นทิศทางการพัฒนาของโลกในอีก 15 ปีข้างหน้าต่อ ไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th