พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนพิเศษ ของนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 12 และการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจและการลงทุนจีน – อาเซียน

ข่าวทั่วไป Saturday September 19, 2015 15:17 —สำนักโฆษก

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) ของนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (The 12th China - ASEAN Expo: CAEXPO) ครั้งที่ 12 และการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจและการลงทุนจีน – อาเซียน (The 12th China – ASEAN Business and Investment Summit – CABIS) ครั้งที่ 12 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2558 โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศ (Country of Honour)

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) ของนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (The 12th China - ASEAN Expo: CAEXPO) ครั้งที่ 12 และการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจและการลงทุนจีน – อาเซียน (The 12th China – ASEAN Business and Investment Summit – CABIS) ครั้งที่ 12 ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน 2558 โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศเกียรติยศ (Country of Honour) และการจัดงานดังกล่าวมีขึ้นในปีที่ไทยกับจีนเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยการเดินทางเยือนครั้งนี้มีผู้แทนระดับสูงของไทยหลายคนเข้าร่วม อาทิ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายธีรกุล นิยม เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ในวันที่ 17 กันยายน 2558 พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีลาว โดยหารือกันในประเด็นความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างกัน การสนับสนุนลาวในฐานะประธานอาเซียนในปี 2559 และการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและพลังงาน ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเชื่อมั่นว่า ประเทศในอาเซียนจะต้องมีการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ต่อมา รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายจาง เกาลี่ รองนายกรัฐมนตรีจีนคนที่ 1 โดยได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องการพัฒนาระบบราง และความเชื่อมโยงของภูมิภาค รวมทั้ง ความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตร หลังจากนั้น นายเผิง ชิงหัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นในการกระชับความร่วมมือระหว่างไทยและกว่างซี โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน เครือข่ายคมนาคม และการท่องเที่ยว ซึ่งไทยและกว่างซีมีศักยภาพที่จะเป็นประตูเชื่อมอาเซียนและจีน รวมทั้ง แสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

ในวันที่ 18 กันยายน 2558 รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีและกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานแสดงสินค้าจีน – อาเซียน (CAEXPO) และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านธุรกิจและการลงทุนจีน – อาเซียน (CABIS) ณ หอประชุมศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติหนานหนิง โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อาเซียนกับจีนในบริบทการเมือง เศรษฐกิจ การค้ากับการลงทุนและการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยมองไปข้างหน้าถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ในงานดังกล่าวมีผู้แทนระดับสูงจากอาเซียนเข้าร่วม อาทิ รองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รองนายกรัฐมนตรีลาว รองนายกรัฐมนตรีเมียนมาร์ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา รัฐมนตรีอาวุโสการค้าสิงคโปร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมบรูไน รัฐมนตรีการค้าระหว่างประเทศมาเลเซีย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยฝ่ายเจ้าภาพมีรองนายกรัฐมนตรีจาง เกาลี่ เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์เปิดโดยเน้นการสานความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้นระหว่างอาเซียนและจีน หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการไทยของจังหวัดชลบุรีซึ่งได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ (City of Charm) ประจำงานครั้งนี้ด้วย เยี่ยมชมนิทรรศการของกลุ่มมิตรผลซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการผลิตพลังงานสะอาดของไทย เยี่ยมชมนิทรรศการของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งแสดงศักยภาพถึงพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสีเขียวของไทย ซึ่งมีนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้การต้อนรับและนำชมนิทรรศการดังกล่าว นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังได้ทำพิธีเปิดและเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าของผู้ประกอบการไทยผู้ประกอบการไทย 120 บริษัท และหน่วยงานอีก 7 แห่งเข้าร่วมงานแสดงสินค้าจำนวน 146 คูหา อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการค้าและการส่งออกของประเทศไทยให้มากขึ้นทั้งในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านี้ได้รับความนิยมจากชาวจีนที่มาเข้าแถวเพื่อรอเข้าชมงานฯ เป็นจำนวนกว่าพันคน

ในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรีได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลม (Roundtable Dialogue) ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำของจีนภายใต้หัวข้อ “Deepening China – Thailand Economic and Trade Cooperation for Mutual Development” ณ มหาศาลาประชาชนกว่างซี รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก่บริษัทจีนที่ประสงค์จะลงทุนในไทย โดยในช่วงตอบคำถาม บริษัทต่างๆ ได้สอบถามถึงข้อมูล แนวนโยบายของไทยต่อการลงทุนของบริษัทจีนในด้านต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รองเลขาธิการคณะกรรมการแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ตอบคำถามให้ความกระจ่างและเชิญชวนให้บริษัทร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยแจ้งว่าไทยพร้อมจะอำนวยความสะดวก และได้แจ้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี (Tax Incentives) ที่รัฐบาลกำหนดเพื่อจูงใจนักลงทุน

ประเทศจีนให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีอย่างสมเกียรติแสดงถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีน การเข้าร่วมงาน CAEXPO และ CABIS ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสอันสำคัญที่จะเน้นย้ำความสัมพันธ์และความร่วมมือของไทยและจีนทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในระดับรัฐบาลและเอกชน (Public – Private Partnership) หากยังเป็นการผลักดันให้อาเซียนและจีนเร่งส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าให้บรรลุเป้าหมาย ชักชวนให้นักธุรกิจจีนให้เข้าไปลงทุนในอาเซียนมากขึ้นผ่านไทยในฐานะศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาค รวมถึงการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความเชื่อมโยงภายในภูมิภาค ผ่านข้อริเริ่มและการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 (21st Century Maritime Silk Road) และการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย (AIIB) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค และส่งเสริมการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับระหว่างประชาชนให้มากขึ้นด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ