พลตรี สรรเสริญ กล่าวว่า ปฏิบัติการฝนหลวงจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำฝน ให้มีการกระจายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมาย ที่ยังมีฝนตกน้อยมากหรือแห้งแล้ง รวมทั้งบริเวณเหนือเขื่อน ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.ย.พบว่า มีปริมาณน้ำเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ 358.03 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนขนาดกลาง 254.93 ล้าน ลบ.ม.และแหล่งน้ำนอกเขื่อน (โครงการขนาดเล็ก) ที่ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 57 - 58 จำนวน 16,720 โครงการ ปริมาณน้ำ 585 ล้าน ลบ.ม. ทำให้แหล่งน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 1,197.96 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การได้ทั่วประเทศ 13,858.69 ล้าน ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม ทีมปฏิบัติการ มีระบบเฝ้าติดตามสภาพอากาศ และข้อมูลพื้นที่ฝนตกหนักจากธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ ไม่ให้ปฏิบัติการนี้ไปซ้ำเติมในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักอยู่แล้ว ให้ได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น
“นายกฯ ได้ฝากให้กำลังใจ ถึงเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทุกคน ที่เสียสละ ทุ่มเทอย่างเต็มที่ มาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในเดือน มี.ค. ทำให้น้ำในเขื่อนหลักและโครงการขนาดเล็กทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตภัยแล้งในปี 58 และจนถึงขณะนี้ก็ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อไป โดยคาดว่าสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยต่อปฏิบัติการฝนหลวงไปได้ถึงประมาณปลายเดือน ต.ค. หรืออย่างช้าต้นเดือน พ.ย.นี้"
ที่มา: http://www.thaigov.go.th