ผลการประชุมร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชน เน้นเอสเอ็มอีทำบัญชีแสดงงบดุลเพื่อง่ายแก่การพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ข่าวทั่วไป Wednesday October 7, 2015 13:59 —สำนักโฆษก

วันนี้ (7 ต.ค. 58) เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชน โดยมีผู้แทนภาครัฐบาลและผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วมประชุม ซึ่งภายหลังการประชุมผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนร่วมแถลงผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการทั้งให้สินเชื่อกองทุนหมู่บ้าน การจัดสรรงบประมาณตำบลละ 5 ล้านบาท และการช่วยเหลือเอสเอ็มอี การตั้งกองทุนร่วมลงทุน รวมถึงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง จึงต้องการให้ภาคเอกชนได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล

รวมทั้ง การฟื้นคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในระดับจังหวัด และ กรอ.ในระดับภูมิภาค เพื่อต้องการให้ภูมิภาคได้ติดตางเร่งรัดดำเนินงานตามมาตรการของรัฐที่ออกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และให้ กรอ.จังหวัดได้เสนอแผนพัฒนาพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ทั้งด้านการท่องเที่ยว พัฒนาสินค้า OTOP การท่องเที่ยว การสร้างตลาดกลางชุมชน เพื่อเสนอมายัง กรอ.ส่วนกลาง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ กรอ.จังหวัดศึกษาแผนงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรอ.จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอาจไม่ได้ประชุมเรื่องเศรษฐกิจเท่าที่ควร ดังนั้น จึงเสนอโครงสร้าง กรอ.จังหวัดเน้นด้านวิชาการและเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และภาคประชาสังคมได้เข้ามาทำงานร่วมกันมากขึ้น ภาคเอกชนจะเสนอแผนพัฒนาท้องที่ ขณะที่เอสเอ็มอีจะพิจาณาการเริ่มต้นธุรกิจในพื้นที่ เพื่อให้เอกชนนอกระบบเข้ามาจดทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบมาตรฐานทางบัญชี โดยมีกรมสรรพากรเข้ามาช่วยอบรม มหาวิทยาลัยช่วยออกแบบซอร์ฟแวร์ด้านบัญชี

นายบุญทัก หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ถ้าเอสเอ็มอีทำบัญชีให้ถูกต้อง จะส่งดีในระยะยาวเมื่อต้องขยายกิจการ เพราะสถาบันการเงินได้พิจารณาสินเชื่อผ่านงบการเงินได้สะดวกขึ้น และหลังจากรัฐบาลได้ให้ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5 (ปรับปรุงใหม่) วงเงิน 1 แสนล้านบาท ผ่าน 19 ธนาคารพันธมิตร นับว่าได้รับความสนใจจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบการ SMEs เป็นจำนวนมากขณะนี้ บสย.อนุมัติค้ำประกันไปแล้ว 2,030 ล้านบาท จึงคาดว่าจะทำยอดวงเงิน 10,000 ล้านบาทต่อเดือน และทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อทั้งปีขยายตัวได้ร้อยละ 6.5

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน และมีความเข้มแข็ง ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทำให้ต่างประเทศมีความมั่นใจในการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ