พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวกรณีนมโรงเรียนที่เน่าเสียในพื้นที่จังหวัดน่านได้สั่งการให้ อ.ส.ค.เร่งดำเนินการตรวจสอบถึงสาเหตุทันที และรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวงเกษตรฯ รับทราบ พร้อมทั้งได้เน้นย้ำว่าต้องไม่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก และต้องหาผู้รับผิดชอบให้ได้โดยเร็วที่สุด
ด้านนายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมหรือมิลค์บอร์ด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนมโรงเรียนที่เน่าเสียในพื้นที่จังหวัดน่าน ว่า จากการที่ อ.ส.ค.ได้แจ้งให้บริษัท ยูเอ็มโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายและส่งมอบนมโรงเรียนให้กับ อบต.ปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ทำการตรวจสอบสาเหตุนมโรงเรียนที่เน่าเสีย เบื้องต้นบริษัท ยูเอ็มโภคภัณฑ์ฯได้ตรวจสอบด้านการผลิตนม ยู.เอช.ที. โค๊ดวันที่ 27-2-59 ได้มีการผลิต จำนวน 93,120 กล่อง โดยจัดส่งไปที่จังหวัดน่าน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2558 จำนวน 66,240 กล่อง จัดส่งไปที่จังหวัดตาก วันที่ 6 สิงหาคม 2558 จำนวน 10,560 กล่อง และมีการจัดส่งไปที่จังหวัดลำปาง วันที่ 6 สิงหาคม 2558 จำนวน 16,320 กล่อง ซึ่งบริษัทฯดังกล่าวได้ตรวจสอบไปยังจังหวัดตากและลำปาง รวมถึงตัวอย่างนมที่จัดเก็บไว้ในห้องแล็ป (Lab) แล้วไม่พบสาเหตุนมมีปัญหา ส่วนนมโรงเรียนที่มีปัญหาในจังหวัดน่าน ทางบริษัท ยูเอ็มโภคภัณฑ์ฯ ได้จัดส่งนม
ยู.เอช.ที. ใหม่เชดเชยให้กับ อบต.ปิงหลวง เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ได้ดื่มนมอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาสาเหตุที่ทำให้นมเสีย ซึ่งบริษัทจะต้องรายงานผลการตรวจสอบและเสนอแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ อ.ส.ค.ทราบโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อ.ส.ค. ได้เร่งประสานกรมปศุสัตว์เพื่อดำเนินการตรวจเช็คสต็อกนม ยู.เอช.ที. ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอาหาร (เสริม) นมโรงเรียนทุกราย ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2558 ตามมติของมิลค์บอร์ดที่เห็นชอบให้ติดตามผลการดำเนินโครงการนมโรงเรียน ภาคเรียนที่ 1/2558 เพื่อตรวจสอบความพร้อมของผู้ประกอบการในการส่งมอบนม ยู.เอช.ที. จำหน่ายในช่วงก่อนปิดภาคเรียนที่ 1 นี้ ซึ่งเน้นให้ตรวจนับจำนวนและรายงานผลตามจริง ขณะเดียวกันจะมีการสุ่มตรวจคุณภาพนมที่ค้างในสต็อกด้วย เพื่อเพิ่มมาตรการความมั่นใจในการบริโภคของนักเรียนที่ได้รับแจกนมดังกล่าว
“นอกจากนั้น อ.ส.ค.ยังจะเร่งรัดให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลคุณภาพนมโรงเรียนภายใต้มิลค์บอร์ด ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก พิจารณาการจัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติเพื่อควบคุมคุณภาพและบริการในโครงการอาหาร (เสริม) นมโรงเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพตั้งแต่กระบวนการผลิต การขนส่ง และการเก็บรักษาก่อนที่นักเรียนจะได้บริโภค รวมทั้งเพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสารในกรณีที่พบความผิดปกติของคุณภาพนมโรงเรียน และยังจะเสนอให้มิลค์บอร์ดพิจารณากำหนดบทลงโทษผู้ประกอบการที่ผลิตผลิตภัณฑ์นมโรงเรียนไม่ได้คุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐานของ อย. ด้วย” รอง ผอ.อ.ส.ค.กล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th