โฆษกรัฐบาลย้ำรัฐบาลมุ่งยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SMEs โดยผนึกกำลังกับ 4 องค์กรในการจัดทำโครงการ “คูปองนวัตกรรม ระยะที่ 2” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของผู้ประกอบการ SMEs สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่

ข่าวทั่วไป Wednesday October 14, 2015 13:42 —สำนักโฆษก

วันนี้ (14 ต.ค.58) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า “โครงการคูปองนวัตกรรม เพื่อยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SMEs ไทย ไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ได้ดำเนินการเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว โดยระยะแรกได้เริ่มดำเนินการในปี 2553 – 2555 ที่ผ่านมาได้รับเสียงการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถพัฒนาแนวคิดและต้นแบบนวัตกรรมได้ถึง 277 โครงการ นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง รัฐบาลจึงได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องในระยะที่ 2 (2555 – 2559) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 500 ล้านบาทในรูปแบบคูปองนวัตกรรม ที่มีลักษณะเป็นเงินให้เปล่าแก่ SMEs สูงสุดโครงการละ 1,500,000 บาท มุ่งเน้นให้เกิดการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งSMEs ที่เข้าร่วมโครงการนอกจากจะได้รับการจัดสรรเงินทุนสนับสนุนแล้ว ยังจะได้รับองค์ความรู้และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมจนสำเร็จ โดยผู้ประกอบการ 1 ราย จะสามารถขอรับเงินสนับสนุนได้ไม่เกิน 2 โครงการ และแต่ละโครงการนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีส่วนร่วมในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนานวัตกรรมคิดเป็นร้อยละ 25 ของมูลค่าทั้งหมดของโครงการ และดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับความสะดวกในการสมัครเข้าร่วมโครงการมากที่สุด จึงได้จัดให้มีช่องทางการลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์นับตั้งแต่การลงทะเบียนและการยื่นข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับทุนสนับสนุน ทั้งนี้ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องขึ้นทะเบียน SMEs ก่อนจึงจะสามารถยื่นข้อเสนอโครงการได้ ส่วนผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการระยะที่ 1 มาแล้วมีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการในระยะที่ 2 ก็สามารถทำได้โดยต้องขึ้นทะเบียนและยื่นข้อเสนอโครงการใหม่เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อให้ สนช.จับคู่ที่ปรึกษาในการพัฒนาโครงการ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเสนอโครงการมีความเป็นไปได้ผู้ประกอบการจะต้องทำโครงการฉบับสมบูรณ์เพื่อขออนุมัติโครงการ และเมื่อโครงการได้รับการอนุมัติแล้วผู้ประกอบการ SMEs ก็จะได้รับเงินสนับสนุนในรูปแบบคูปองซึ่งจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเป็นงวด ๆ ไปภายหลังจากที่ผู้ประกอบการได้มีการดำเนินการแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา”

“SMEs ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และได้เน้นย้ำกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนให้ SMEs มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการ ลงทะเบียนและยื่นข้อเสนอโครงการภายในวันที่ 31 ต.ค. 2558 โดยผู้ประกอบการสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่ http://coupon.nia.or.th

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ