นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อปีก่อนประเทศอังกฤษริเริ่มกองทุนวิจัยและนวัตกรรมสำหรับประเทศที่มีศักยภาพ ที่เรียกว่า ‘นิวตันฟันด์’ โดยเป็นกองทุนร่วมระหว่างประเทศอังกฤษและประเทศไทยแบบครึ่ง-ครึ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ สถาบันความร่วมมือ และหุ้นส่วนองค์กรของทั้งสองประเทศ ในกรอบวงเงิน 5 ปี 1,000 ล้านบาท ซึ่งในปีแรก ใช้งบประมาณ 82.5 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนกิจกรรม 4 ด้านสำหรับนักวิจัยและนักนวัตกรรมจากทั้งสองประเทศรวมแล้วกว่า 500 คน ได้แก่ 1.ทุนสนับสนุนการวิจัยร่วมยุทธศาสตร์ระดับชาติด้านโรคในประเทศไทย 2. ทุนผู้นำนวัตกรรม 3. ทุนแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษาระดับปริญญาเอก และ 4. การบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม นอกจากนี้ เอกอัคราชทูตอังกฤษ ยังกล่าวว่า ตนมั่นในว่าความร่วมมือนี้จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอังกฤษอย่างแน่นแฟ้นในสาขาที่สร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของมนุษย์ และจะในปีที่สองจะเพิ่มเงินทุนเป็น 422.5 ล้านบาท ภายใต้ 10 โครงการความร่วมมือ
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ระดับที่สูงขึ้น จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้โดยเร็ว ซึ่งประเทศไทยต้องการการจัดระบบและเครือข่ายความร่วมมือจากนานาชาติในการเพิ่มการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ของประเทศไทย สู่เป้าหมาย 1% ของจีดีพีโดยมีเอกชนเป็นแกนหลัก ณ ปัจจุบัน มีสัญญาณที่ดีที่เอกชนรายใหญ่หลายบริษัทประกาศเพิ่มการลงทุนหลายเท่าตัว อันจะทำให้เอสเอ็มอีปฏิบัติตามเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยและ วทน. ซึ่งมีอยู่ในภาคเอกชนเพียง 7% ของบุคลากรที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ทั้งประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ ได้กล่าวขอบคุณหุ้นส่วนนิวตันฟันด์ทั้งหมด ที่ช่วยทำให้เกิดการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
“ในวันนี้ประเทศไทยต้องมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรและข้าว รวมถึงด้านสุขภาพทั้งโรคติดต่อและไม่ติดต่อในสังคมไทย ต้องใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ในการทำประโยชน์ให้กับประเทศและโลกใบนี้ ประเทศไทยตัองการเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาในสาขาดังกล่าว เชื่อมโยงการทำงานของกระทรวงและการทำงานกับต่างประเทศอย่างมีดุลยภาพ และหวังว่าความร่วมมือนี้จะมีความต่อเนื่องตลอดไป” ดร.พิเชฐ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับในปีที่ 2 นิวตันฟันด์จะดำเนินการครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาบุคลากร การวิจัย และการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัย ภายใต้ 10 โปรแกรม ได้แก่ 1.ทุนวิจัยด้านสุขภาพ 2.ทุนวิจัยเกี่ยวกับข้าว 3.ทุนวิจัยและดำเนินงานด้านสะเต็มศึกษา ทุนวิจัยในสหราชอาณาจักรสำหรับ 4.นักศึกษาปริญญาเอก 5.นักวิจัยรุ่นใหม่ และ 6.นักวิจัยรุ่นกลาง 7. ทุนเพื่อการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร การสร้างเครือข่ายวิจัยและการบริหารจัดการงานวิจัย สำหรับนักวิจัยและเจ้าหน้าที่โครงการวิจัย 8.ทุนจัดประชุมทางวิชาการและการเดินทางเข้าร่วมประชุมทางวิชาการ 9.ทุนวิจัยร่วมในระดับหน่วยงานวิจัย และ 10. ทุนเพื่อการสร้างองค์ความรู้และทักษะการบริหารจัดการวิสาหกิจ โดยมี 6 หน่วยงานไทย (สวทช. สวทน. สกว. สสวท. สวก. และ สกอ.) และ 6 หน่วยงานอังกฤษ (BBSRC BA BC MRC RAEng และ RS) ร่วมดำเนินการด้านสุขภาพ เกษตร พลังงาน สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และนโยบาย วทน.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th