พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อสร้างการรับรู้เรื่องวัฒนธรรมของชนชาติไทย ประวัติศาสตร์ของชาติของไทย และพระอัจฉริยภาพของบูรพกษัตริย์ในแต่ละยุคสมัย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงได้จัดพิมพ์หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย และหนังสือพระบรมราชานุสรณ์สัตตบูรพกษัตริยาธิราช อุทยานราชภักดิ์ รวม 11,000 เล่ม เผยแพร่ไปยังหน่วยงานและสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
“นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทยมาโดยตลอด ต้องการให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ความเป็นมาของชาติ ความเสียสละของบูรพมหากษัตริยาธิราชและบรรพบุรุษไทยที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยจนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ตระหนักและมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่ เป็นพลเมืองที่ดี ช่วยกันดูแลรักษาชาติบ้านเมืองให้เกิดความสงบ เดินหน้าฝ่าวิกฤติการณ์ต่างๆ ไปได้”
สำหรับหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น กรมศิลปากรได้จัดพิมพ์เป็นภาษาไทยจำนวน 10,000 เล่ม มีเนื้อหาเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชนชาติไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทย และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษสำหรับเผยแพร่แก่ชาวต่างชาติให้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน ส่วนหนังสือพระบรมราชานุสรณ์ สัตตบูรพกษัตริยาธิราช อุทยานราชภักดิ์ จำนวน 1,000 เล่ม นั้นได้บอกเล่าถึงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ผู้ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติในแต่ละยุคสมัยนับตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนั้นยังนำเสนอเรื่องราวของอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งใหม่ของประเทศ
พลตรีสรรเสริญ ยังกล่าวอีกว่า หนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ ได้รวมรวมเนื้อหาประวัติศาสตร์ชาติไทยไว้อย่างละเอียดเป็นอย่างดี แต่เพื่อให้สะดวกแก่การศึกษาและสามารถพกพาได้ นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยฉบับย่อเพิ่มเติมทั้งในรูปแบบภาษาไทยสำหรับเยาวชนไทยและผู้สนใจทั่วไป และฉบับภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้รับทราบถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทยอันดีงามด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th