อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีอยากวิงวอนให้ทุกภาคส่วนของสังคมทั้ง ข้าราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน เข้าใจในเจตนารมณ์ของรัฐบาล และช่วยกันรักษาเสถียรภาพและบรรยากาศที่ดีของประเทศให้ดำเนินต่อไป เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันปฏิรูปประเทศให้เป็นไปตามความประสงค์และ Roadmap ที่กำหนดไว้ ด้วยการสร้างความเข้าใจกันเองในประเทศ และสื่อสารไปยังต่างประเทศว่า เรากำลังสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นความเข้มแข็งในระดับฐานรากทั้งเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ และแก้ไขปัญหาน้ำ ปัญหาประมง มาตรฐานการบินพลเรือน ฯลฯ อย่างยั่งยืน
ส่วนเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและผิดกฎหมาย ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ยังมีบางกลุ่มไม่เข้าใจและกล่าวโจมตีให้ร้ายรัฐบาลโดยอ้างหลักประชาธิปไตย มุ่งเปิดประเด็นปัญหาผ่านสื่อต่าง ๆ ให้เกิดความขัดแย้ง และสื่อมวลชนบางส่วนก็มักนำไปขยายผลจนเกิดความขัดแย้งมากขึ้นอีก วันนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งที่หมักหมมมานาน คือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่รัฐบาล และ คสช. เองพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยใช้กฎหมายปกติก็กลับถูกกดดันให้ใช้กฎหมายพิเศษเพื่อกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต
“นายกฯ เน้นว่าทุกคนมีส่วนกำหนดชะตากรรมของประเทศทั้งสิ้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่มีใครสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่การแก้ไขปัญหาให้สำเร็จนั้นต้องเริ่มต้นจากการเคารพกฎหมายและกติกาของบ้านเมือง ใช้กฎหมายเป็นหลัก จะใช้ความรู้สึกหรือความเกลียดชังมาตัดสินกันเองไม่ได้ เพราะความขัดแย้งจะเกิดขึ้นแบบไม่รู้จบ ต่างประเทศก็จะไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุนค้าขายกับเรา และอยากขอร้องทุกฝ่ายหยุดใช้คำว่าประชาธิปไตยและความยากจนของประชาชนมาโจมตีให้ร้ายกัน เพราะวันนี้ประเทศอยู่ในสถานะไม่ปกติ เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th