พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทางไกล ระดับภูมิภาคขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการประสานงานด้านการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมทั้งระบบ DLTV และ DLIT และเป็นศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาภายใต้ระบบการนิเทศและการบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนทางไกล เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนทางไกล รวมถึงเป็นศูนย์กลางการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนทางไกลด้วยการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการในทุกมิติ ถือเป็นการพัฒนาการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยในภาคเหนือได้มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนทางไกล ระดับภูมิภาค ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เพื่อเป็นศูนย์การการประสานงานด้านการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับการลงพื้นที่ ณ โรงเรียนวัดบึงพระ จังหวัดพิษณุโลก ในครั้งนี้ ถือเป็นโรงเรียนที่ดำเนินการตามนโยบายและแผนงานเรื่องของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 417 คน มีนายประทีป สมบูรณ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
จากการที่โรงเรียนประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนครูผู้สอน จึงได้นำการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (ครูตู้) มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างประสบความสำเร็จ ด้วยการจัดระบบ Server ไว้สำหรับเรียนได้ตลอดเวลาและทบทวนหลังเรียน และมีการวางระบบอินเทอร์เน็ตทั่วทั้งโรงเรียน โดยใช้โครงข่าย MOE-NET เป็นเครือข่ายหลัก ส่งผลให้โรงเรียนมีการเรียนการสอนโดยใช้สื่อการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television : DLTV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้เรียนครบทุกวิชา แม้ขาดครูที่ไม่ตรงวิชาเอก นักเรียนก็ยังมีผลการเรียนที่ดีขึ้นตามคะแนน O-NET พร้อมทั้งนักเรียนมีความตื่นตัวในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน และครูมีเวลาเตรียมการสอนเพิ่มมากขึ้น
การที่ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการครูตู้สัญจร (ภาคเหนือ) ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ณ โรงเรียนวัดบึงพระ จังหวัดพิษณุโลก ทำให้เห็นว่าสามารถพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของทางโรงเรียนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดและเป็นตัวอย่างที่ดีในการขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ ได้มอบแนวทางการดำเนินงานโดยให้มุ่งเน้นให้เป็นไปตามนโยบาย เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่การแข่งขันในเวทีโลก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งตามวิสัยทัศน์รัฐบาล คือ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th