หารือกับ ปอมท.
การหารือครั้งนี้ ตัวแทน ปอมท. ได้แสดงความคิดเห็นใน 5 ประเด็น โดยสรุปดังนี้
- ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณานั้น พบว่ามีหลายข้อขัดแย้งกันเอง และหากประกาศใช้จะกระทบกับบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมด จึงขอให้มีการปรับปรุงแก้ไข
- ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารงานบุคคลในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะใช้บังคับกับมหาวิทยาลัยของรัฐนั้น มีบางมาตราไปเกี่ยวพันกับมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จึงขอให้เพิ่มสัดส่วนของ ปอมท.เข้าไปมีส่วนร่วมในการยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วย
- การประเมินกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF HEd) ที่ใช้อยู่ในขณะนี้ เห็นด้วยที่จะให้มีการประเมินตาม มคอ. 1-2 แต่ มคอ.3-7 ควรให้มหาวิทยาลัยดำเนินการเองตามบริบทของแต่ละมหาวิทยาลัย
- การปรับขึ้นเงินเดือน 8% ให้แก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาสายวิชาการ เนื่องจากเมื่อปี 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8% ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ปรับให้อาจารย์มหาวิทยาลัย
- การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จะต้องไม่ขึ้นค่าเทอมให้สูงขึ้น และการที่มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐมีอิสระมากขึ้น ควรคำนึงถึงการนำงบประมาณรายได้ไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้เพื่อการอื่น ทั้งยังขอให้มีตัวแทนคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยที่มีความเข้มแข็งและมีส่วนร่วมต่อการบริหารงานของมหาวิทยาลัยให้มากขึ้น
หารือกับ ปอมท.
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้ทำให้รู้จักคณาจารย์หลายท่านใน ปอมท. และได้รับฟังความคิดเห็นจาก ปอมท. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอุดมศึกษา โดยได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รับความคิดเห็นและข้อเสนอไปพิจารณา พร้อมทั้งขอให้ ปอมท.มีส่วนร่วมในการดูแลแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยบางแห่ง โดยให้กลับไปรวบรวมข้อเสนอและแนวทางแก้ปัญหาให้เป็นข้อมูลรับทราบต่อไป
นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงประเด็นการพิจารณาดำเนินการปรับขึ้นเงินเดือน 8% ให้แก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาสายวิชาการว่า จะได้มีการหารือร่วมกับผู้บริหาร สกอ. ในวันที่ 18 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ สกอ.เท่านั้น แต่เกี่ยวพันกับหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงบประมาณ ฯลฯ
หารือกับ ผอ.รร.มหิดลวิทยานุสรณ์
ภายหลังการหารือกับ ปอมท., ผศ.ดร.ยุวดี นาคะผดุงรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ ได้เข้าหารือกับ รมว.ศึกษาธิการ และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ห้อง MOC ในประเด็นการวางแผนผลิตผู้เรียนเพื่อรองรับการวิจัยและพัฒนาของประเทศ เพื่อให้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มีส่วนสำคัญต่อการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาประเทศให้มากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันประเทศยังขาดแคลนนักวิจัยอีกเป็นจำนวนมาก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th