โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เป็นห่วงปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือลดฝุ่น-ดูแลสุขภาพประชาชน วอนสื่อประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ชาวบ้าน ขณะที่อินโดนีเซียแสดงความขอบคุณในไมตรีจิตของไทยที่ตั้งใจช่วยเหลือตลอดม

ข่าวทั่วไป Thursday October 22, 2015 15:23 —สำนักโฆษก

พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่มีรถบรรทุกน้ำร่วมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเร่งฉีดละอองน้ำลดความเข้มข้นของฝุ่นละอองในอากาศ นอกจากนี้ ยังให้ผู้ว่าราชการในจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตราฐานติดตามข้อมูลรายงานสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยร่วมประชุมกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ ทั้งที่สังกัด ศธ. และ อปท. ตลอดจนศูนย์ดูแลเด็กเล็กในพื้นที่ หากค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองเกิน 350 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ให้ใช้ดุลพินิจประกาศหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวได้ พร้อมกันนี้ยังให้สาธารณสุขจังหวัดแจ้งไปยังโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งเร่งแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน อย่างทั่วถึง ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสุขภาพ ให้คำแนะนำประชาชน

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงโดยเฉพาะในพื้นที่ทั้งวิทยุชุมชน เคเบิ้ลทีวี หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ช่วยรณรงค์สร้างกระแสการดูแลสุขภาพ เช่น ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคาร หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ เด็ก และหญิงมีครรภ์ ควรงดออกจากบ้านเรือนสักระยะ ส่วนการดำเนินงานของทีมฝนหลวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 พื้นที่ คือ จ.สงขลา 1ทีม ร่วมกับกองทัพอากาศอีก 1 ทีม และ จ.กระบี่ 3 ทีม แต่เนื่องจาก จ.สงขลา ในขณะนี้มีสภาพทัศนวิสัยจำกัดมากจึงไม่สามารถปฏิบัติการได้ โดยได้มีการปรับแผนให้ทีมฝนหลวง จ.กระบี่ ย้ายไปปฎิบัติการที่ จ.ตรัง ซึ่งทำให้สะดวก ลดระยะทางที่จะปฏิบัติการในพื้นที่สงขลา และจังหวัดชายแดนใต้ โดยให้เร่งปฏิบัติการโดยทันที

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงในที่ประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ได้ติดต่อประสานงานไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยยืนยันว่าไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่อินโดนีเซียทุกด้าน ซึ่งทางอินโดนีเซียได้แสดงความเสียใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณในไมตรีจิตของรัฐบาล และประชาชนชาวไทย แต่เนื่องจากระยะทางระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซียค่อนข้างห่างไกล ประกอบกับอากาศยานบรรทุกสารเคมีและน้ำของไทยที่มีอยู่สามารถบรรจุน้ำได้ไม่มากนัก อินโดนีเซียจึงได้ขอความช่วยเหลือจากประเทศใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมก็จะนึกถึงประเทศไทยทันที ทั้งนี้ ไทยและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมาในฐานะมิตรประเทศในอาเซียน ท่านนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งในระดับภูมิภาคมาโดยตลอดว่า ทุกประเทศจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ก้าวเดินและเติบโตไปด้วยกัน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ