นายสมชาย เทียมบุญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวสรุปผลการจัดงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SMEs ว่าตลอดระยะเวลา 23วัน ของการจัดงานภายในบูธจำนวน 135 บูธ ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดสั่งซื้อจำนวน 161,328,700 บาท ยอดจำหน่าย 4,439,693 บาท ยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรม 50,004 คน ผู้เข้าใช้บริการ MOST SERVICE 1,547 ราย และยอดผู้เข้าร่วมกิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยี 818 คน ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs นักวิจัย นักพัฒนา นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงผลงานของกระทรางวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้ผลิตสินค้าและผู้ขายสินค้ามีโอกาสได้ซื้อขายสินค้านวัตกรรมทางวิทยาศาตร์ฯ
อีกทั้ง การสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและประชาชนทุกคนได้เห็นคุณค่า เลือกใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการและการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม และยั่งยืนด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวสรุปผลการจัดงาน"สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมนี้ มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 65,000 คน มีสินค้าคุณภาพจากทั่วภูมิภาคมาจำหน่ายสินค้า 194 ร้านค้า และมีร้านค้าสวัสดิการมาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ ร้านค้าจากโครงการคืนคนดีสู่สังคม ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอยภายในงานเป็นเงินกว่า 17 ล้านบาท และมีกิจกรรมเติมเต็มองค์ความรู้ให้คำปรึกษาแนะนำด้านธุรกิจ ซึ่งมีผู้มารับบริการปรึกษาด้านการเขียนแผนธุรกิจกว่า 103 ราย รับบริการขึ้นทะเบียน SMEs จาก สสว. กว่า 272 ราย ตรวจเครดิตบูโรฟรีกว่า 631 ราย ปรึกษาเชิงธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์กว่า 102 ราย และรับคำแนะนำทำบัญชีครัวเรือนจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์กว่า 361 ราย ตลอดจนมีผู้สนใจเข้ารับคำปรึกษาแนะนำและยื่นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ4% ต่อปีจากเอสเอ็มอีแบงก์จำนวนกว่า 196 ราย เป็นวงเงินกว่า450ล้านบาท และมีนักเรียนนักศึกษาที่มีความคิดสร้างสรรค์ต้องการเริ่มต้นธุรกิจจากสถาบันการศึกษาทุกภูมิภาคได้สมัครเข้าร่วมโครงการปั้นธุรกิจพิชิตเงินแสนจากเอสเอ็มอีแบงก์ เสนอโครงการเข้ามาจำนวน 74 ไอเดียธุรกิจ เพื่อรับเงินสนับสนุนเงินสมทบทุนแบบให้เปล่า
การจัดงานนี้ได้รวบรวม ทุกสิ่งไว้ภายในงานเดียวเพื่อให้บริการประชาชน ทั้งสินค้าบริการ เงินทุน องค์ความรู้เชิงธุรกิจ และสินค้าสวัสดิการราคาพิเศษ ที่นำมาจำหน่ายราคาถูกเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ซึ่งนับว่ากิจกรรมดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดี และช่วยตอบโจทย์การมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของคนไทย และเป็นต้นแบบหนึ่งที่จะสานต่อให้งานคลองผดุงกรุงเกษมเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปิดตลาดว่า ตลอดระยะเวลาของการจัดงาน"สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย และนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย เพื่อ SMEs" จำนวน 24 วัน นับว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่ง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและเอสเอ็มอีแบงก์ รวมทั้งองค์กรพันธมิตร ภาครัฐและเอกชนได้สานต่อนโยบายรัฐบาล ในการจัดเวทีเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่SMEs ขนาดเล็กและวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค มาจำหน่ายให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีทั้งกลุ่มคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมงานอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้เปิดตลาดการค้าใหม่ๆ
นอกจากนี้ ยังได้รับประสบการณ์ในการจำหน่ายสินค้าและกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ การส่งเสริมการตลาด การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ จึงสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาต่อยอดด้านการตลาดของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวต่อไป
หลังจากนั้น ประธานในพิธีและผู้บริหารการจัดงานดังกล่าว ได้มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 83 ราย และหน่วยงานภาคีพันธมิตร ผู้สนับสนุนการจัดงาน พร้อมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและแผนธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 9 ราย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th