วันนี้ (26 ต.ค. 58) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมฯ อาคารหอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณสุขสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 1/2558 ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า สืบเนื่องจาก นายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา มีกำหนดการเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2558 เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีและลงนามความตกลงระหว่างไทยกับศรีลังกา ในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-ศรีลังกา พร้อมทั้งเชื่อมความสัมพันธ์ทางด้านพระพุทธศาสนา เนื่องจากประเทศไทยและศรีลังกาต่างก็นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
ทั้งนี้ การมาเยือนไทยของประธานาธิบดีศรีลังกาครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนา 2 กิจกรรม คือ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานเพื่อให้ชาวไทยได้สักการะ ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และพิธีมอบพระพุทธรูปหินแกะสลัก ณ วัดธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่พระอุบาลีเถระเคยจำพรรษาอยู่ พระบรมสารีริกธาตุนั้น ได้อัญเชิญมาจากวัดมหิยานกะนะราชมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จเยือนศรีลังกา และเป็นบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายของพระพุทธองค์ ในส่วนการจัดกิจกรรมด้านศาสนาทั้ง 2 กิจกรรมดังกล่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชามอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับผิดชอบร่วมกับคณะสงฆ์ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันดำเนินการ
ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้รับทราบมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 24/2558 เห็นชอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล ระหว่างวันที่ 1 – 17 พฤศจิกายน 2558 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้สักการะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา และมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด และแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศประชาสัมพันธ์และนำประชาชนมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุตามกำหนดการและสถานที่ดังกล่าว
ตลอดจนรับทราบ มติคณะกรรมการรับผิดชอบเพื่อเตรียมการต้อนรับประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ระหว่างวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2558 ด้วย ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับผิดชอบพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุและกิจกรรมทางศาสนาเพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ศรีลังกา โดยลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 307/2558 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล ซึ่งมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นประธาน โดยมีอำนาจหน้าที่ กำหนดวางแผนงานและขั้นตอนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พร้อมขอความร่วมมือส่วนราชการ หน่ายงานภาครัฐและเอกชน ให้การสนับสนุน ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นใดที่ได้รับมอบหมายอีกด้วย
ตอนท้ายของการประชุมได้มีมติเห็นชอบเรื่องขอความอนุเคราะห์คณะสงฆ์ สนับสนุนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล ทั้งนี้ เพื่อให้การให้การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และตามมติเถรสมาคม โดยมอบหมายสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินการ ดังนี้ อาราธนาพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะ จำนวน 10 รูป เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม ในพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์รับพระบรมสารีริกธาตุ ณ พุทธมณฑล ในวันที่ 1 และวันที่ 2 พฤศจิกายน ๒๕๕๘ พร้อมอาราธนาพระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม และคณะ จำนวน 4 รูป เป็นผู้แทนมหาเถรสมาคม ร่วมพิธีส่งคืนบรมสารีริกธาตุ และกำกับดูแลดำเนินการด้านศาสนพิธีตลอดจนงานเสร็จพิธี รวมทั้งขอความเมตตานุเคราะห์เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และเจ้าคณะภาค 14 นิมนต์พระสงฆ์ในเขตปกครองเข้าร่วมพิธี ในวันที่ 1 และ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ตลอดจนขอความเมตตานุเคราะห์เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์และนำประชาชนมาสักการะบรมสารีริกธาตุ แบ่งตามภาคการปกครองคณะสงฆ์ ตั้งแต่วันที่ 3 – 16 พฤศจิกายน 2558 และขอความเมตตานุเคราะห์วัดพิชยญาติการาม วัดพระปฐมเจดีย์ วัดเจษฏาราม วัดไร่ขิง วัดพระพุทธฉาย และวัดสามพราน โดยได้เชิญชวนคณะอุบาสกอุบาสิกาผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพตั้งโรงทาน ตั้งแต่วันที่ 1 – 17 พฤศจิกายน 2558 ด้วย
รวมทั้งเห็นชอบให้ขอความร่วมมือหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล ทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัยและพิธีการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th