โฆษกรัฐบาลเผยนายกรัฐมนตรีหวังการเดินทางไปตรวจเยี่ยม กรอ.ภาคครั้งแรกที่จังหวัดอุบลฯ จะได้รับข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนในแต่ละเรื่อง

ข่าวทั่วไป Tuesday October 27, 2015 14:35 —สำนักโฆษก

วันนี้ (27 ต.ค.58) เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ ถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรีปรารภและสั่งการต่อที่ประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมเพื่อรับทราบปัญหาความก้าวหน้าของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) หรือ กรอ. ภาค ที่จังหวัดอุบลราชธานีในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2558 โดยการเดินทางไปตรวจเยี่ยมครั้งนี้ จะมีการติดตามเรื่องราวต่าง ๆ ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ภัยแล้ง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกพืชโดยความสมัครใจ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ลงไปในท้องถิ่นต่าง ๆ ฯลฯ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการให้ชัดเจนในการที่จะบรรยายสรุปในเรื่องต่าง ๆ ทั้งปัญหา สิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว รวมถึงสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป รวมทั้งเรื่องที่แก้ไขไม่ได้โดยกฎหมายปกติจะต้องให้มีการแก้ไขด้วยวิธีพิเศษ เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยม กรอ.ภาคครั้งแรกที่จังหวัดอุบลฯ คาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนในแต่ละเรื่อง

นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภถึงเรื่องปีหน้าที่จะเริ่มมีรถไฟสายต่าง ๆ ทั้งที่เสร็จเรียบร้อยและเริ่มทดลองวิ่ง ตลอดจนเริ่มก่อสร้างนั้น จากที่ได้มีการตรวจสอบพบว่าวิศวกรที่เกี่ยวกับเรื่องของรถไฟในประเทศไทยยังมีไม่เพียงพอที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับบริษัทเอกชนที่เป็นภาคอุตสาหกรรมหลายบริษัท เช่น ซัมซุง มิตซูบิชิ มาสด้า ฟอร์ด ฯลฯ วันนี้จึงได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงแรงงานและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตลาดแรงงานวันนี้และอนาคตในระยะเวลา 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี ต้องการแรงงานที่มีความรู้ความสามารถทางด้านใดและจำนวนเท่าไร เพื่อกระทรวงศึกษาฯ จะได้นำพิจารณาดำเนินการจัดทำหลักสูตรต่าง ๆ และผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานซึ่งในอดีตเราไม่ค่อยได้ดำเนินการในลักษณะเช่นนี้

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องของการบริการการขนส่งทางสาธารณะพบว่า ปัจจุบันมักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งไม่ว่าจะเกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย หรือเกิดจากความประมาทเลินเล่อ และการพักผ่อนไม่เพียงพอของผู้ที่เป็นผู้ให้บริการรถสาธารณะ ตลอดจนเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของประชาชนนั้น ที่ผ่านมามักจะทำงานในลักษณะเมื่อมีงานนักขัตฤกษ์ครั้งหนึ่งก็จะจัดมาตรการต่าง ๆ เพื่อจะระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือให้น้อยลง ในแต่ละนักขัตฤกษ์ ๆ ไป แต่ต่อไปนี้ให้ถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศที่จะต้องวางแผน เพราะว่าการลดสถิติอุบัติเหตุลงช่วยให้ประชาชนปลอดภัย และประหยัดงบประมาณในทุกเรื่อง อาทิ เรื่องสาธารณสุข การรักษาพยาบาล การซ่อมแซมสิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือการประกันภัย ฯลฯ เพราะฉะนั้นจึงมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณามาตรการที่เกี่ยวข้อง เช่น รถที่จะเป็นรถบริการสาธารณะ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้มีการติดอุปกรณ์ในการที่จะควบคุมความเร็วของรถ หากรถเก่าคือได้มีการใช้บริการมาแล้วไม่ได้เริ่มจดทะเบียนในปี 2559 ก็พิจารณาแยกประเภทให้ชัดเจนว่าอะไรที่สามารถดำเนินการได้ อะไรที่ยังใหม่ สามารถที่จะติดตั้งได้ หรืออะไรที่เก่าจนเกินไปจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยน เนื่องจากติดอุปกรณ์ก็ไม่คุ้มค่าให้มีการวางแผนกันให้ชัดเจน โดยให้ประสานขอความร่วมมือจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพราะ สสส. มีแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องของการดูแลเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยกับประชาชนอยู่แล้วก็จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องงบประมาณซึ่งกันและกัน

ส่วนเรื่องการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจพบว่า รัฐวิสาหกิจหลายแห่งมีการประกอบการที่ดี แต่ขณะเดียวกันก็มีรัฐวิสาหกิจหลายแห่งประสบปัญหาเช่นกัน อาทิ เรื่องของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาในหลายมิติใช่วงที่ผ่านมา แต่พบว่าผลการแก้ปัญหาที่ได้ถึงต้นเหตุของปัญหายังไม่สามารถที่จะเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่าแนวทางในการแก้ปัญหามุ่งในระดับของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการมากเกินไปโดยละเลยเจ้าหน้าที่ในระดับบริหาร ซึ่งบางคนมีเงินเดือนถึง 100,000 – 200,000 บาท อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่สั่งการว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพียงแต่นายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่างให้ฟังว่าในการจะแก้ปัญหาองค์กรโดยรวม อย่ามองแต่เฉพาะระดับผู้ปฏิบัติการอย่างเดียว เพราะในบางโอกาสระดับผู้บริหารถ้าคนล้นงานแล้วสามารถที่จะปรับลดลงได้ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดทุนต่าง ๆ ลดน้อยลง เพราะฉะนั้นไม่เฉพาะบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ก็ควรจะต้องมีแนวทางในการที่จะแก้ไขปัญหาในลักษณะแนวทางอย่างที่นายกรัฐมนตรียกตัวอย่างบ้าง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงเรื่องที่ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กระทรวงกลาโหม บูรณาการการทำงานในเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่าง ๆ ลดลงให้ได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือนนั้น เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า รัฐบาลไม่ได้ที่จะรังแกบุคคลใด แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย ใครก็แล้วแต่ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือกฎหมาย เก็บสะสมอาวุธสงครามไว้ หรือมีซุ้มมือปืน ต้องดำเนินการให้เรียบร้อย และใช้กฎหมายปกติในการดำเนินการจะได้ไม่เป็นที่ข้อครหาว่า เป็นการเลือกดำเนินการกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จึงขอให้ใช้กฎหมายปกติ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เป็นกฎหมายที่มีอยู่แล้วแต่เดิม เพราะฉะนั้นใครที่ปฏิบัติผิดกฎหมายจะมาร้องว่ารัฐไปกลั่นแกล้งมุ่งที่จะทำลายฝ่ายนั้นฝ่ายนี้คงไม่ได้

รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายางพาราซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีข้อกังวลหลายกรณี เช่น เรื่องการจ่ายเงินก็จะมีปัญหากับกฎ กติกา ข้อบังคับขออง องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ที่ไม่สามารถไปแทรกแซงเรื่องของยางได้ เพราะฉะนั้นเรื่องของการแก้ไขปัญหายางคงจะมีหลายวิธี เช่น การลดพื้นที่การปลูกโดยเฉพาะพื้นที่ที่ไปบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย เรื่องของการเสริมสร้างโรงงานอุตสาหกรรม หรือผลิตภัณฑ์ในประเทศให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่เฉพาะถุงมือยางอย่างเดียว หากจะต้องมีเรื่องของอุปกรณ์อย่างอื่นมาด้วย โดยวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าแม้แนวทางดังกล่าวจะไม่สามารถที่จะทำให้การใช้ยางมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ก็เป็นผลทางจิตวิทยาและส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางได้เกิดความมั่นใจว่า รัฐบาลพยายามหาวิธีทุกวิถีทางในการที่จะทำให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ยางมาประกอบวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในประเทศให้มากขึ้น อาทิ การนำยางมาเป็นส่วนผสมของการทำถนน ซึ่งได้มีการวิจัยออกมาแล้วว่าหากนำยางประมาณ 5% ของส่วนผสมเดิมที่จะทำถนนมาผสมอุปกรณ์เดิมจะทำให้อายุการใช้งานของถนนเพิ่มระยะเวลาขึ้นได้ถึง 40% ของอายุการใช้งานเดิม ซึ่งจะทำให้งบประมาณในการซ่อมบำรุงถนนก็จะลดน้อยลง ขณะเดียวกันก็มีค่าใช้จ่ายในการสร้างถนนที่สูงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10% แต่เมื่อคิดเฉลี่ยแล้วพบว่าได้ประโยชน์มากกว่าคือปริมาณการใช้ยางมีมากขึ้น แม้ราคาถนนจะสูงขึ้นบ้าง 10% แต่อายุการใช้งานนานขึ้น และการซ่อมบำรุงถนนก็ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถใช้ในเรื่องของการเป็นตัวเชื่อมระหว่างเส้นทางตัดของถนนกับทางรถไฟ ซึ่งโดยปกติปัจจุบันใช้คอนกรีตอยู่ เป็นต้น

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้ฝากเตือนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความขัดแย้งต่าง ๆ ทั้งความขัดแย้งทางความคิดหรือเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งการที่จะสร้างกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์ นั้น ขอให้ประชาชนได้ช่วยกันใช้ดุลยพิจในเรื่องนี้ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นหากหลงเชื่อไปตามคำเชิญชวนของเขาจะทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราสงบสุขไหม หรือเหตุการณ์จะย้อนกลับไปเหมือนก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 อีก แล้วกฎหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะกฎหมายปกติ ประกาศ หรือคำสั่งของ คสช. เป็นเรื่องที่ได้ประกาศไปแล้ว หากบุคคลใดทำผิดก็ต้องโดนลงโทษตามกระบวนการความผิด จะอ้างว่าใส่ร้าย จ้องทำผิดไม่ได้ เพราะกฎหมายและประกาศคำสั่งเหล่านี้ออกมาก่อนการประพฤติปฏิบัติของท่าน เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะทำอะไรก็แล้วแต่ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องกฎหมาย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือแนวทางเช่นนั้นเป็นการแก้ไขปัญหาในอดีตหรือไม่ ทั้งนี้ สังคมเข้าใจได้ว่าแนวทางของการแก้ปัญหาที่ผ่านมาในอดีต วิธีที่ดีที่สุดก็คือการผลักดันให้ทุกเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแบบสมเหตุสมผลซึ่งกันและทุกฝ่าย ไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า คดีทุจริต คดีที่เกี่ยวเรื่องของการชุมนุมแล้วก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในปี 2558 และ 2559 จะต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้กระบวนการเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะในปี 2560 จะได้เริ่มกิจกรรมหรือมาตรการที่เกี่ยวกับการปรองดองเพราะจะเป็นส่วนที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน เพราะการจะปรองดองได้อย่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่าเป็นการเหมาเข่ง แต่จะต้องแยกเป็นรายกรณี ๆ ไปว่ากรณีใดเป็นกรณีเล็กไม่มีฐานความผิดใหญ่นักประชาชนที่มาชุมนุมเดินทางมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ อาจจะเกิดจากการถูกชักชวนหรือหลงเชื่อไปตามคำแนะหรือคำยุยงของกลุ่มผู้นำ ส่วนอะไรที่เป็นคดีความใหญ่ ๆ มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงมีการใช้อาวุธสงครามนั้นจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นมาตรการปรองดองปี 2560 คงมีความชัดเจนซึ่งจะต้องต่อเนื่องจากการที่ผลักดันคดีต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเป็นการไปเร่งรัดหน่วยงานที่ทำหน้าที่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นเอกเทศแต่อย่างใด เพียงแต่เร่งรัดในส่วนหน่วยงานของรัฐที่นำเรื่องราวต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการ เป็นต้น

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ