วันนี้ (30 ต.ค.58) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 7/2558 โดยมี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
ภายหลังการประชุม พลเอก ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คตช. พร้อมด้วย นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (เลขาธิการ ป.ป.ท.) และ นายชัยรัตน์ ขนิษฐบุตร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (รองเลขาธิการ ป.ป.ช.) ร่วมกันแถลงผลการประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้
กรรมการและเลขานุการ คตช. กล่าวว่า ที่ประชุม คตช. วันนี้ได้ติดตามผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ใน คตช. ทั้ง 5 ด้าน พร้อมกับเห็นชอบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม “วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล” ในวันที่ 9 ธันวาคม 2558 โดยนายกรัฐมนตรีมีความพอใจในเรื่องการดำเนินงานต่อต้านการทุจริตในช่วงที่ผ่านมา ที่ส่วนราชการต่าง ๆ องค์กรต่าง ๆ ได้ให้การตอบรับเรื่องการต่อต้านการคอร์รัปชันของประเทศไทยที่ดำเนินการโดยทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการดำเนินการด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ที่คณะอนุกรรมการด้านการปลูกจิตสำนึกฯ ได้จัดการประกวดคลิปรณรงค์ “สำนึกไทยไม่โกง” ซึ่งได้คัดเลือก 8 ผลงานจากทั้งหมด 77 ผลงานเพื่อนำไปผลิตเป็นสื่อเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับรู้ ปฏิบัติ และช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบผู้ที่จะทำให้เกิดความเสียหายไม่เรียบร้อยต่อสังคม และจะได้สร้างการรับรู้ในเรื่องการดำเนินการของรัฐบาลด้วย
“นายกรัฐมนตรีมองว่าในขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำในเรื่องของการต่อต้านการทุจริตถือว่าอยู่ในโรดแมประยะที่ 2 เป็นการทำควบคู่ไปพร้อมการปฏิรูป ประเด็นสำคัญคือสังคมต้องสร้างการรับรู้และต้องช่วยกันว่า เมื่อรู้ว่ามีการกระทำการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการใดหรือองค์กรใด ต้องร่วมมือกันเพื่อให้การต่อต้านการทุจริตเป็นวัฒนธรรมของสังคมไทยต่อไปในอนาคต” กรรมการและเลขานุการ คตช. กล่าว
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการต่อการการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. ได้นำเสนอที่ประชุม คตช. ใน 2 ประเด็น คือ 1. สืบเนื่องจากการแก้ไขปัญหาการทุจริตในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมองว่าการดำเนินการที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง กลไกการแก้ไขปัญหาดีขึ้น ระบบงานต่าง ๆ ที่เคยติดขัดก็ดีขึ้น มาตรการใดที่ยังไม่ครบถ้วนก็มีการเสริมจนดีขึ้นในทุกมิติ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง สามารถลดปัญหาและทำให้มาตรการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่สามารถอยู่อย่างยั่งยืน ศอตช. จะดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้เน้นที่ส่วนราชการส่วนกลาง แผนงานโครงการใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนโยบายสำคัญ ได้แก่ การดำเนินการตาม พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการฯ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรการทางบริหารในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2558 โดย ศอตช. ในฐานะที่เป็นกลไกการขับเคลื่อนและการตรวจสอบ จะทำหน้าที่เสมือนเป็นกลไกตรวจสอบภายในให้กับรัฐบาล กระตุ้นงานด้านนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และจะดำเนินงานในเชิงพื้นที่เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ประกอบกับเรื่องร้องเรียนที่ผ่านมาได้ปรากฏชัดเจนว่า ในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตเข้ามาจำนวนมาก ฉะนั้นในปี 2559 ศอตช. มีนโยบายที่จะลงไปดำเนินการเฝ้าระวังมิให้เกิดการทุจริต หากพบการทุจริตจะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที ทั้งนี้ มุ่งเน้นเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนและทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล 2. เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศ ที่ประชุม คตช. มีมติให้ ศอตช. ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ และสภาหอการค้าต่างประเทศ เพื่อตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนจากนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นกับนักลงทุนต่างประเทศ ศอตช. จะเข้าไปดำเนินการทันที และจะต้องทราบผลภายใน 7 วัน เพื่อเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศ
ด้าน รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี ตรงกับวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล โดยในปีนี้ รัฐบาลร่วมกับ ป.ป.ช. และเครือข่ายภาคประชาชน ภาคเอกชน จะได้ร่วมกันจัดงาน “วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล” ขึ้นในวันที่ 8-9 ธันวาคม 2558 ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรืออาคารบี ภายใต้แนวคิดประเทศไทยโปร่งใส เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องที่มีความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต เพื่อยกระดับค่าดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนในการสร้างความตระหนักและร่วมกันป้องกันการทุจริต ซึ่งจะจัดงานขึ้นพร้อมกันทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยในวันที่ 9 ธันวาคม 2558 นายกรัฐมนตรีจะไปร่วมงานพร้อมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งหลังจากที่นายกรัฐมนตรีกล่าวนำประกาศเจตนารมณ์ฯ จบแล้ว ผู้แทนองค์การสหประชาชาติจะแถลงสารเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล และจะมีการมอบรางวัลกิจกรรมการประกวดของคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ อนุกรรมการด้านการป้องกันการทุจริต ในคณะกรรมการ คตช. และในวันที่ 8 ธันวาคม 2558 สำนักงาน ป.ป.ช. จะมอบรางวัลองค์กรโปร่งใสให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ดำเนินงานเป็นต้นแบบของความโปร่งใสด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th