นายฮิโระโตะ อิซุมิ ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของรองนายกรัฐมนตรี และแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในด้านต่างๆ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่าในช?วง 1 ป?ที่ผ?นมา ความร?วมมือไทย-ญี่ปุ?น มีความคืบหน?ที่เป?นรูปธรรม ไม?ว?จะเป?นความร?วมมือระบบรางและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยไทยให้ความสำคัญกับญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงในภูมิภาค
ระหว่างการหารือ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือที่สำคัญทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลไทยยังคงให้ความสำคัญในด้านการส่งออก ควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งภายใน โดยเน้น 1) การยกระดับภาคการเกษตร การสร้างนวัตกรรม การพัฒนาสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง รวมถึง การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ (Super cluster) ที่เน้นการพัฒนาตามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ๆ อาทิ รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ การแพทย์ อาหาร 2) การสร้าง connectivity โดยเฉพาะระบบราง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเส้นทาง East-West Economic Corridor แม?สอด –มุกดาหาร เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส?งในภูมิภาค และเส้นทาง Southern Corridor เชื่อมโยงทวายกับแหลมฉบัง ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ มีความสำคัญต่อญี่ปุ่น เนื่องจากมีอุตสาหกรรมจากญี่ปุ่นอยู่ในบริเวณเหล่านี้จำนวนมาก 3) การสร้าง SMES ให้เข้มแข็ง โดยเห็นว่า หากมีการเชื่อมโยง SMEs ระหว่างสองประเทศ จะช่วยสร้าง supply chain ซึ่งจะเกิดเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ซึ่งทางคณะที่ปรึกษาพิเศษด้านเศรษฐกิจฯ ได้แสดงความสนใจแนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ และได้ขอรับทราบรายละเอียดเพิ่มเติม
นอกจากนี้ มีการหารือเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางไปญี่ปุ่นของรองนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย. 2558 ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่นายอิซุมิ ที่ปรึกษาพิเศษด?นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ?น ช่วยผลักดันให้มีการประชุม High Level Joint Commission (HLJC) ขึ้นครั้งแรก และเชื่อว? กลไก HLJC เป?นประโยชน?อย?งยิ่งต?อความสัมพันธ?และส่งเสริมความร?วมมือไทย - ญี่ปุ?น อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รองนายกรัฐมนตรีประสงค์ให้ทางฝ่ายญี่ปุ่นเชิญรัฐมนตรีจากพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยวและกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมด้วย
สำหรับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ทางญี่ปุ่นได้แจ้งถึงความคืบหน้าว่า ได้มีการการเตรียมการสำหรับการลงนาม Shareholder Agreement ในช่วงการประชุม 3 ฝ่าย ไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2558 ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่เรื่องนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ความร?วมมือด?นการเกษตร ขณะนี้ ญี่ปุ่นกำลังเร่งเปิดตลาดเพิ่มเติมสำหรับมะม?วงจากไทยและอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย และขอให้ไทยช่วยเร่งรัดกระบวนการเปิดตลาดส่งออกให้แก่ส้มและเนื้อวัวจากญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ในตอนท้ายรองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า ไทยมีความเชื่อมั่นว่า ญี่ปุ่น เป็นหุ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ โดยภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลปัจจุบัน จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความร่วมมือกับไทยที่อยู่ภายใต้ผลประโยชน์ของสองประเทศ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจที่จะวางพื้นฐานที่ดีและมั่นคงให้แก่ประเทศในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่
ที่มา: http://www.thaigov.go.th