นายกรัฐมนตรีเปิดงาน “OTOP TO AEC... มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม 3 – 25 พ.ย. นี้

ข่าวทั่วไป Tuesday November 3, 2015 11:29 —สำนักโฆษก

วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2558) เวลา 17.00 น. ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน“OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” จัดโดยกระทรวงมหาดไทย โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง คณะทูตานุฑูต อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวรายงานว่า การจัดงาน “OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินงานโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า และเป็นการเชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง สำหรับในเดือนพฤศจิกายนนี้ รัฐบาลได้มอบให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ภายใต้ชื่องาน “OTOP TO AEC…มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 25 พฤศจิกายน 2558 ระหว่างเวลา 10.00 – 19.00 น. ทุกวัน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีศักยภาพส่งออกต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 3 - 5 ดาวทุกภูมิภาคทั่วประเทศมาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 330 รายการ ประกอบด้วย สุดยอดอาหารเลิศรส OTOP ชวนชิม 4 ภูมิภาค การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด และพลาดไม่ได้กับไฮไลท์พิเศษภายในงานทั้ง “OTOP สู่ AEC” ที่จะมีการนำเอาผลิตภัณฑ์ที่ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศและได้รับความนิยมจากหลายประเทศทั่วโลกมาแสดงให้คนไทยได้ร่วมภาคภูมิใจ และได้เห็นถึงศักยภาพของภูมิปัญญาไทยที่ก้าวไกลสู่สากล การจัดแสดงการพัฒนาโครงการ “OTOP Next 2.0” ตามที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับสินค้า OTOP ของไทยในระยะต่อไปมาจัดแสดงด้วย

นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษอีกมากมายที่จะช่วยพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP ตลอดจนประชาชนที่สนใจ อาทิเช่น การส่งเสริมความรู้ด้านการเจรจาธุรกิจ การตลาด การเงินให้กับผู้ประกอบการและผู้สนใจ จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การประเมินให้คำแนะนำเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้นำ “ศูนย์บริการร่วมกระทรวงมหาดไทย” มาให้บริการแก่พี่น้องประชาชนที่เข้าเยี่ยมชมภายในงานอีกด้วย โดยจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้บริการสัปดาห์ละ 3 – 4 หน่วยงาน อาทิเช่น กรมการปกครอง บริการทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค แจกน้ำดื่มฟรี กรมโยธาธิการและผังเมืองแจกแบบแปลนบ้าน และกรมที่ดินมาแนะนำวิธีการประเมินที่ดิน เป็นต้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบริเวณพิธีเปิดงาน “OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” ได้เดินเยี่ยมชมศูนย์บริการร่วมกระทรวงมหาดไทย และชมการแสดงจาก ทีมไทภูเขียว แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 5 พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและส่งเสริมการใช้สินค้าเกษตรในรูปแบบที่กว้างขวางขึ้น จึงได้มีนโยบายในการจัดโครงการตลาดนัดสินค้าชุมชนข้างทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งในเดือนนี้กระทรวงมหาดไทยได้จัดงาน “OTOP TO AEC...มรดกของแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” โดยมุ่งหวังให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชน และสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าและพบปะกับผู้บริโภคโดยตรง และจะทำให้ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระจายรายได้ในระดับครัวเรือนและระดับชุมชนอีกทางหนึ่ง อีกทั้งสามารถต่อยอดสินค้าเหล่านี้เข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ในปี 2558 ซึ่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คนไทยทุกคนนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่ประชาชนชาวไทย และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ทรงเสียสละกำลังพระวรกายมุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความอยู่ดี กินดีของราษฎรมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญทรงริเริ่มให้มีการฟื้นฟูและพัฒนางานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทรงพระราชทานโครงการศิลปาชีพขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศของแต่ละภูมิภาค ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งประชาชนคนไทยต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วันนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งหมดทุกภาคส่วน แล้วก็ทำให้เกิดปัญหา ทำไม่ได้ทั้งสิ้น ก็ขอเวลากันให้เข้าใจกันตรงนี้ อย่ามาขัดแย้งกันต่อไปเลย ทุกอย่างกลับมาที่เดิม ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันฝ่าวิกฤติ โดยเฉพาะความความขัดแย้งในประเทศ เราต้องร่วมกันปรับตัวสร้างความเข้มแข็งช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคี และร่วมมือในการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้มีความสงบสุข

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดงานบนเวทีร่วมกับคณะรัฐมนตรีบนเวที พร้อมถ่ายภาพร่วมกับคณะรัฐมนตรีและคณะผู้บริหาร ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการและบูธจำหน่ายสินค้า

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ