พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมากโดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปบูรณาการวางแผนเรื่องการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ให้ดี รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และเกษตรกรต้องพิจารณาว่าควรปลูกพืชชนิดใดในช่วงนี้ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้ง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในหลายมาตรการคือ การเชิญชวนให้เกษตรกรหันไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก จากการปลูกข้าวที่ต้องใช้น้ำมากเป็นการปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อย ขายได้ราคาดีและมีตลาดรองรับ โดยที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และ คสช. ร่วมกันลงพื้นที่ไปเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรให้หันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยตามแนวทางข้างต้น
“นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้มีหนังสือแจ้งรายชื่อพืชที่ใช้น้ำน้อยไปยังส่วนราชการในระดับพื้นที่ พร้อมทั้งหารือกับเกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และภาคเอกชนในจังหวัด ถึงความต้องการพืชผลที่ใช้น้ำน้อยว่า ผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ต้องการผลผลิตชนิดใดบ้าง จากนั้นทีมประเทศไทยซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่าง ๆ ที่อยู่ในจังหวัดจะได้นำเสนอรายชื่อพืชดังกล่าว ให้แก่เกษตรกรเพื่อเป็นทางเลือกในการเพาะปลูก ก่อนนำส่งไปขายยังตลาดที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้อย่างครบวงจร ทั้งนี้ รายชื่อพืชที่ใช้น้ำน้อย ได้แก่ มะละกอ พืชตระกูลถั่วทุกชนิด งาดำ ข้าวฟ่างหวาน ฟักทอง ฟักเขียว แก้วมังกร อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง มะพร้าว ตะบองเพชร และพืชสมุนไพรทุกชนิด”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th