ไทย-ปากีสถาน พร้อมผลักดันความร่วมมือในทุกมิติ

ข่าวทั่วไป Monday November 9, 2015 15:19 —สำนักโฆษก

พลเอก ราชัด มาห์มูด (Gen. Rashad Mahmood) ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

วันนี้ เวลา 9.00 น. พลเอก ราชัด มาห์มูด (Gen. Rashad Mahmood) ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับพลเอกราชัด มาห์มูด ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถานในโอกาสเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพไทย และเชื่อมั่นว่าการมาเยือนไทยครั้งนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันพร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของชาวปากีสถาน จากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2558 และหวังว่าสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติและประชาชนได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ตามเดิมแล้ว รวมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุอาคารที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์ไทย-ปากีสถาน ราบรื่นและมีความใกล้ชิดในทุกมิติและทุกระดับมาเป็นเวลากว่า 64 ปี มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอในทุกระดับ ตลอดจนการประชุมภายใต้กลไกความร่วมมือทวิภาคี และยืนยันนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับปากีสถานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยยินดีให้การสนับสนุนบทบาทของปากีสถานในเวทีนานาชาติ

สำหรับความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถาน ทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และ หวังว่ากรอบความร่วมมือด้านส่งกำลังบำรุง (Thailand-Pakistan Joint Logistics Committee Meeting) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีเดียวระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถานจะมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และสามารถขยายขอบเขตความร่วมมือที่เป็นไปได้ เพื่อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกอบรมร่วมด้านการส่งกำลังบำรุง และการพิจารณาสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ประเภทที่ 5 (สป.5) แก่ไทย ในกรณีฉุกเฉิน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นอกจากความร่วมมือด้านการทหารแล้ว นายกรัฐมนตรียังหวังให้มีการผลักดันความร่วมมือไทย-ปากีสถานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนการท่องเที่ยว และการศึกษา ควบคู่กันไป นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย โดยเห็นว่าเป็นภัยต่อประชาคมโลก

ประธานคณะเสนาธิการร่วม กองทัพปากีสถาน แสดงความขอบคุณประเทศไทยที่เป็นประเทศแรก ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ปากีสถานยามประสบภัยพิบัติ พร้อมกล่าวว่าบทบาททางด้านการทหารของนายกรัฐมนตรีจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศ และหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำทหารระดับสูงให้มากขึ้น โดยเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทหารและประชาชนของทั้งสองประเทศจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และภูมิภาค นอกจากนี้เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทยหวังให้ไทยเร่งรัดการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ปากีสถาน (FTA) ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับไปหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ