ในโอกาสนี้ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ว่า เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีและมิตรภาพ ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนความรู้ วัฒนธรรมและเพิ่มศักยภาพของคนพิการ พร้อมเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่คณะนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันฯ โดยมีนักกีฬาจากกลุ่มประเทศอาเซียน จำนวน 11 ประเทศ เข้าแข่งขันฯ ใน 15 ชนิดเกมส์ อาทิ กรีฑา ยกน้ำหนัก ยิงปืน หมากรุกสากล เทเบิลเทนนิส วิลแชร์บาสเกตบอล ฟุตซอลคนตาบอด ฟุตบอล ( 7 คน) ว่ายน้ำ แบดมินตัน และยิงธนู เป็นต้น
ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาดังกล่าว รัฐบาลโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดเตรียมและฝึกซ้อมนักกีฬา ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เป็นเวลากว่า 4 เดือน
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทสรุปความว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาพบกับคณะนักกีฬาทีมชาติไทยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีฝากความปรารถนาดี และให้กำลังใจคณะนักกีฬาทุกคนในการไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาติ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ ๘ ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริม และสนับสนุน กีฬาทุกประเภท โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้กีฬาเป็นพื้นฐานสำคัญในการบ่มเพาะเยาวชน และชาวไทยให้มีน้ำใจนักกีฬา มีวินัย ปฏิบัติตามกฎกติกา เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีระเบียบแบบแผน และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาผู้เล่นกีฬาให้ก้าวมาเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งกีฬา
สำหรับการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ในครั้งนี้ ขอชื่นชมนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้ทุ่มเทการทำงานกันอย่างหนัก ภายใต้ข้อจำกัดของแต่ละท่าน จึงต้องฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่คิดค้นเทคนิคทางกายภาพ เพื่อเพิ่มความ ได้เปรียบในการแข่งขัน มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งด้านอาหารการกิน ตารางเวลาฝึกซ้อม การพักผ่อน ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและดีที่สุด ไม่เพียงแต่เอาชนะข้อจำกัดส่วนตัวของแต่ละคน แต่ยังสามารถแข่งขันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทยด้วย
รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนท้ายว่า การเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ขอให้คณะนักกีฬาทุกคนมีความมุ่งมั่น และตั้งใจ เพื่อชัยชนะ โดยทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความสามารถในฐานะตัวแทนของประเทศไทย เพราะความสำเร็จของนักกีฬาไทยคือชื่อเสียงของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผลแพ้ชนะไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่ได้รับคือการเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการแข่งขัน การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจต่อกัน และที่สำคัญคือต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และเคารพในกฎกติกาอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของประเทศชาติ พร้อมนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนชาวไทยต่อไป
อนึ่ง รองนายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้แก่ตัวแทนคณะนักกีฬาฯ พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน และพบปะทักทายคณะนักกีฬา และผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยอัธยาศัยอันดี
------------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
อภินันท์ /รายงาน
ดวงใจ /ตรวจ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th