วันนี้ (๓ ต.ค.๕๘) เวลา ๐๗.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)เป็นประธานในพิธีสงฆ์ และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล องค์กรที่มีผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ ๒ ประเภท รวมทั้งสิ้น ๒๖ รางวัล กระตุ้นสังคมตระหนักความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน เพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพและมีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาสังคมในอนาคต
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.๒๕๔๕ และครบรอบ ๑๓ ปี วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงในวันนี้ กระทรวงฯ ได้มุ่งเป้าหมายที่จะนำสังคมก้าวไปสู่ความเจริญงอกงาม โดยร่วมทำงานกับทุกภาคส่วนในสังคม ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า "มุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน”และมีเจตนารมณ์ที่ต้องการแก้ปัญหา พัฒนา สร้างความเป็นเลิศ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วน ตลอดจนการวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาว ซึ่งการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจทั้งจากบุคลากรของกระทรวง ที่สามารถบริการประชาชนอย่างมืออาชีพและจากภาคีเครือข่ายการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ในการเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับประโยชน์ในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือจากบุคลากร และองค์กรที่ทำ CSR ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จที่จะบูรณาการภารกิจไปสู่เป้าหมาย ที่กำหนดและมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงฯ จึงได้จัดงานประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศฯ โดยพิจารณาคัดเลือกผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ แบ่งเป็น ๒ ประเภทๆ ละ ๑๓ รางวัล ได้แก่ ๑)ประเภทหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม.ที่มีผลงานเป็นเลิศ และ ๒)องค์กร CSR ที่มีความเป็นเลิศ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศฯ ได้พิจารณาจากหน่วยงานที่มีการปฏิบัติงานดีเลิศเป็นที่ประจักษ์ บุคลากรมีความมุ่งมั่น ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบอย่างเต็มกำลัง และมีความสุขในการปฏิบัติงาน สุขกาย สุขใจ สิ่งแวดล้อมรอบข้างมีความสุข สำหรับประเภทที่ ๒ องค์กร CSR ที่มีความเป็นเลิศนั้น เป็นองค์กรที่มีความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมในเชิงรุก ดำเนินงานเพื่อส่งเสริม ช่วยเหลือพัฒนากลุ่มเป้าหมายในสังคมอย่างเหมาะสม รางวัลแห่งความภาคภูมิใจนี้เป็นเครื่องยืนยันและแสดงให้เห็น ถึงความสำเร็จของการทำงานอย่างร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งเป็นสุดยอดของการพัฒนาสังคมไปสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯโดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ยังได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการในสังกัดกระทรวงฯ ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ จำนวน ๔ ราย เข้ารับประกาศนียบัตรในโอกาสนี้ด้วย เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
"สำหรับที่ตั้งของกระทรวงฯแห่งนี้เดิม คือ วังสะพานขาวซึ่งเคยเป็นวังที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร?พระราชโอรสองค์ที่ ๔๒ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)โดยทรงสร้างพระราชทานให้เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษแล้ว ทำพิธีขึ้นตำหนักเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๐ ทรงใช้เป็นที่ประทับและที่ทรงงานราชการ ภายหลังที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกรสิ้นพระชนม์ ในปี พ.ศ.๒๔๙๐ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๓ กระทรวงมหาดไทยได้ขอซื้อที่ดินพร้อมอาคารจากทายาท เพื่อเป็นที่ตั้งของกรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งเดิมอาศัยพื้นที่พระราชวังสราญรมย์อยู่ ปัจจุบันตำหนักกรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร วังสะพานขาว ได้รับการอนุรักษ์เป็นโบราณสถาน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th