นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 สรุปผลการประชุม ครม. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ ดังนี้
1. ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงฯ เสนอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ยุติการดำเนินการคัดเลือกเอกชนลงทุนงานระบบไฟฟ้าและรับจ้างดำเนินกิจการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และเตาปูน - ท่าพระ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 และให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เนื่องจากการดำเนินการตามกฏหมายเดิม จะเป็นการเปิดประมูลรูปแบบเดียว และทำให้มีภาคเอกชนหลายแห่งมาดำเนินการเดินรถและจะต้องทำการซ่อมบำรุง รวมทั้งมีอู่เดินรถหลายแห่ง ส่งผลให้การดำเนินงานเกิดความซับซ้อน ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลประชาชนจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด โดยได้รับความสะดวก สบาย และรวดเร็ว และรัฐจะต้องประหยัดการลงทุน ซึ่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 จะมีความคล่องตัวและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
2. ครม. เห็นชอบการดำเนินงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ของกรมท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ โดยใช้งบประมาณ 1,900 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2559 - 2561)
3. ครม. รับทราบรายงานผลการเจรจาการบินระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ยืนยันบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เรื่อง สิทธิการบิน การเดินอากาศร่วมกัน ซึ่ง ครม. ได้เห็นชอบในหลักการตั้งแต่ปี 2556 ประกอบด้วย 5 เส้นทาง ในส่วนของประเทศฟิลิปปินส์ ได้แก่
1) ฟิลิปปินส์ - กรุงเทพฯ - เชียงใหม่
2) มะนิลา - กรุงเทพฯ
3) จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์ ยกเว้นมะนิลา - จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย
4) จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์ - จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพฯ
5) จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์ - จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย
ในส่วนของประเทศไทย ได้แก่
1) จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย - มะนิลา - ดาเวา
2) กรุงเทพฯ - มะนิลา
3) จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพฯ - จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์
4) จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย - จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์ ยกเว้นมะนิลา
5) จุดต่าง ๆ ในประเทศไทย - จุดต่าง ๆ ในฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ จะได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและฟิลิปปินส์ต่อไป
4. ครม. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงฯ เสนอ ดังนี้
4.1 ให้ความเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ 9 ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในประเด็นที่ไม่ใช่สาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะผู้แทนไทย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
4.2 อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว
สาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรี สำหรับการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค ครั้งที่ 9 มีดังนี้
1) การยกระดับการขนส่งอย่างครอบคลุม เล็งเห็นความสำคัญของพัฒนาการขนส่งอย่างครอบคลุม เพื่อการเพิ่มผลิตภาพของประชากร ซึ่งจะส่งผลในการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ รัฐมนตรีขนส่งเอเปค จึงสนับสนุนข้อเสนอโครงการในการสร้างกรอบการขนส่งอย่างครอบคลุมภายในภูมิภาคเอเปค
2) การพัฒนาระบบการขนส่งอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำการยึดถือกระบวนการด้านความมั่นคงและความปลอดภัยระหว่างประเทศในทุกรูปแบบของการขนส่ง เป็นลำดับสำคัญ รวมทั้งส่งเสริมให้เขตเศรษฐกิจสนับสนุนระบบการขนส่งที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3) การส่งเสริมนวัตกรรมด้านการขนส่ง ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการดำเนินการปรับประสานกฎระเบียบยานพาหนะภายใต้ความตกลงที่ดำเนินการโดยการประชุมปรับประสานกฎระเบียบของยานพาหนะระดับโลก เพื่อพัฒนาความปลอดภัยและการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของยานพาหนะ รวมทั้งส่งเสริมให้เขตเศรษฐกิจใช้ระบบขนส่งอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในภาคการขนส่ง
4) การเสริมสร้างขีดความสามารถ เสนอแนะให้คณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค สานต่อการสนับสนุนความพยายามในการเสริมสร้างขีดความสามารถร่วมกับคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรของเอเปค สำรวจโครงการและวิธีการในการดำเนินการตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ และองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ในด้านความมั่นคงและความปลอดภัยในการขนส่งทางอากาศและทางทะเล
5) การส่งเสริมบทบาทสตรีในภาคการขนส่ง ชื่นชมคณะทำงานด้านการส่งเสริม บทบาทสตรีภาคการขนส่ง ในโครงการและมาตรการในการเพิ่มบทบาทของสตรีในภาคการขนส่ง และการแลกเปลี่ยนการปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา การสรรหา การสงวน และความเป็นผู้นำของสตรี
6) ความร่วมมือระหว่างสาขา โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความร่วมมือกับคณะทำงานอื่น ๆ ทั้งในและนอกเอเปค เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของคณะทำงานด้านการขนส่งของเอเปค
5. ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมการทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ รถสามล้อ รถจักรยานยนต์ 2 ปี/ครั้ง จากเดิมเก็บปีละ 1 ครั้ง และการกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้รถ และการอนุญาตใช้รถในราชอาณาจักร ดังนี้
5.1 เครื่องหมายแสดงการใช้รถ (รถยนต์ 500 บาท รถจักรยานยนต์ 200 บาท)
5.2 รถที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อใช้ในกิจการใดเป็นการเฉพาะชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว จะเก็บครั้งละ 500 บาท กรณีอื่น ๆ เก็บครั้งละ 2,000 บาท
5.3 รถที่ใช้เพื่อการทดสอบก่อนการผลิต รถยนต์ ครั้งละ 2,000 บาท รถจักรยานยนต์ ครั้งละ 1,000 บาท ส่วนรถที่นำมาทดสอบคุณภาพเฉพาะรถยนต์ ครั้งละ 5,000 บาท
"มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
ที่มา,ผู้เสนอ : กองสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th